svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โรค(ที่ไม่ใช่มะเร็ง) ที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

20 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เพจเฟซบุ๊ก ใกล้หมอจิ๋ม โดยให้ความรู้เรื่อง/ปัญหาใต้สะดือเหนือเข่าจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ โพสต์เตือนสาวๆ โดยข้อความระบุว่า 4 โรคที่ไม่ใช่มะเร็ง ที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

โรค(ที่ไม่ใช่มะเร็ง) ที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม

ไปอ่านเจอมาค่ะ บทความค่อนข้างดีมีประโยชน์
คุณผู้หญิงที่มีสุขภาพดี ไม่ควรมีอาการผิดปกติใดๆ ขณะมีประจำเดือน
แม้บางท่านอาจจะมีอาการปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือนได้บ้าง แต่ไม่ควรรุนแรงมากมายนัก
แต่ถ้าคุณผู้หญิงมีอาการเหล่านี้
1. อาการ #ปวดประจำเดือนจนต้องนอนพัก หยุดงาน หรือต้องรับประทานยาแก้ปวด หรือมีอาการปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย
2. มีประจำเดือนมาก อาจมีอาการอ่อนเพลียหรือซีดร่วมด้วย
3. ปัสสาวะบ่อย จนในยามค่ำคืนต้องลุกมาถ่าย 2-3 ครั้ง
4. ปวดท้องน้อยเฉียบพลัน ปวดมากขึ้นเรื่อยๆและอาจจะปวดมากขึ้นถ้านอนหรือนั่งในบางท่า
"อย่าได้นิ่งนอนใจ! เพราะนั่นหมายถึงว่า คุณอาจมีโรคใดโรคหนึ่งที่จำเป็นต้องรักษา"
1) #โรคเนื้องอกมดลูก
#โรคเนื้องอกมดลูกเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดของคุณผู้หญิง
เซลล์กล้ามเนื้อบางตำแหน่ง แบ่งตัวและเจริญจนเป็นก้อนแทรกในชั้นกล้ามเนื้อ
แม้จะไม่ใช่โรคร้าย แต่คุณผู้หญิงบางรายอาจจะมีอาการรุนแรงได้
อาการต่างๆ ของโรคนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอก
คุณผู้หญิงจะรู้สึกอ่อนเพลีย และเหนื่อยง่ายจากภาวะซีด
 #เนื้องอกที่อยู่ใต้เยื่อบุโพรงมดลูก จะทำให้ประจำเดือนออกมากและมีหลายวัน
 #เนื้องอกที่อยู่ด้านหน้าใต้กระเพาะปัสสาวะ จะกดกระเพาะปัสสาวะทำให้มีอาการ #ปัสสาวะบ่อย บางรายอาจมีอาการปัสสาวะลำบาก
 #เนื้องอกที่อยู่ด้านหลัง จะกดลำไส้ใหญ่จนเกิดอาการ #ท้องผูก
 #เนื้องอกที่ขยายไปทางด้านข้าง อาจจะไปกดท่อไตมีผลทำให้การทำงานของไตเสียได้
 #เนื้องอกที่ด้านบนของมดลูก ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการและตรวจพบเมื่อก้อนมีขนาดใหญ่มากแล้ว
2) #ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ และ #ช็อกโกแลตซีสต์
ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ #พบได้บ่อยมากในสตรีวัยเจริญพันธุ์
โรคนี้เกิดมากับเลือด ประจำเดือน
ร้อยละ 90 ของสตรีจะมีเลือดไหลย้อนเข้าสู่อุ้งเชิงกรานขณะมีประจำเดือน
เซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกของคุณผู้หญิงบางท่านไม่ตาย จะเจริญต่อไปจนเกิดเป็นภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในอุ้งเชิงกราน
ประมาณว่า ร้อยละ 10 ของคุณผู้หญิงวัยนี้จะเป็นโรคนี้
เหตุผลเพราะว่าคุณผู้หญิงในปัจจุบันมีประจำเดือนเร็วและมีประจำเดือนนาน กว่าจะแต่งงานและมีลูกก็มีประจำเดือนไม่น้อยว่า 10-20 ปี โอกาสเป็นโรคนี้จึงมีมาก

โรคเหล่านี้มีอาการ #ปวดประจำเดือนมาก เป็นอาการสำคัญ
เมื่อเป็นมากขึ้นจะมีอาการ คือ
ปวดขณะมีเพศสัมพันธ์
ปวดเรื้อรังที่มีอาการปวดทุกวันเป็นเวลานาน
ถ้าโรคกระจายไปกระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ใหญ่จะมีอาการถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือด บางรายอาจมีอาการของลำไส้แปรปรวนได้ คุณผู้หญิงจำนวนมากที่มีโรคนี้จะมี #ภาวะมีบุตรยากด้วย
3) #ถุงน้ำหรือซีสต์ที่รังไข่ (Ovarian Cyst)
โดยทั่วไปในระยะแรกจะไม่มีอาการ แต่ถุงน้ำจะค่อยๆใหญ่ขึ้น
เมื่อถุงน้ำใหญ่ขึ้นจนแกว่งตัวได้ ก็มีโอกาสบิดขั้วที่รังไข่ของคุณผู้หญิงได้ จะเกิดอาการปวดท้องน้อยเฉียบพลัน
ในระยะแรกจะปวดเป็นพักๆ และอาการปวดหายไปได้
ถ้าการบิดขั้วหมุนกลับไปสู่ตำแหน่งปกติ แต่อาการปวดจะรุนแรงขึ้น จนกระทั่งปวดไปทั่วท้อง เมื่อการบิดขั้วรุนแรงมากจนทำให้รังไข่คั่งเลือด
ในระยะนี้คุณผู้หญิงจะปวดมากจนทนอาการปวดไม่ไหวต้องมาพบแพทย์แบบฉุกเฉิน
4) #โรคมดลูกโตจากเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Adenomyosis)
เป็นโรคที่มีเซลล์ของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญในชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก (คล้ายกับภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ที่เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญในอุ้งเชิงกราน) เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญและสลายตามรอบประจำเดือน
ขณะมีประจำเดือนเซลล์เหล่านี้จะสลายเกิดการอักเสบในชั้นกล้ามเนื้อ กระตุ้นให้เกิดการบีบรัดตัวของมดลูก ทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือน หลังหมดประจำเดือนเกิดพังผืดในบริเวณชั้นกล้ามเนื้อนี้
ภาวะนี้เกิดซ้ำๆ ในแต่ละรอบประจำเดือน ทำให้มดลูกใหญ่ขึ้น เป็นรูปทรงกลม และอาการจะรุนแรงขึ้นได้
นอกจากคุณผู้หญิงจะมีอาการปวดประจำเดือนแล้ว ประจำเดือนมามากก็เป็นอาการที่พบบ่อยร่วมด้วย
ในรายที่รุนแรงจะมีอาการปวดเรื้อรัง ปวดหน่วง หรืออาการปวดคล้ายปวดประจำเดือนเกือบทุกวัน
แม้จะไม่ใช่โรคร้ายหรือมะเร็ง แต่โรคทั้ง 4 ตามที่กล่าวมาข้างต้น สามารถก่อให้เกิดอาการที่มีผลต่อสุขภาพในระดับต่างๆ
บางกรณีคุณผู้หญิงอาจไม่มีอาการ แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดต่ออันตรายต่อสุขภาพอย่างมากได้ในภายหลัง
ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติเพียงข้อหนึ่งข้อใดควรพบสูติ-นรีแพทย์
หรือแม้ว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ก็ควรตรวจสุขภาพทุกปี
ด้วยความปรารถนาดี
ใกล้หมอจิ๋มCr.โรงพยาบาลกรุงเทพ
ชมโพสต์ต้นฉบับ

logoline