svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชาดา" แนะดูงานในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า "ชิมช้อปใช้"

19 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชาดา" แนะ "บิ๊กตู่" ออกกฎหมายประกันรายได้-แบ่งปันผลประโยชน์พืชผลเกษตร ให้ชาวนามีความมั่นคงในชีวิต หากสำเร็จจะเป็นอนุสาวรีย์แซ่ซ้อง ประกาศเดินหน้าแบนพาราควอต ขุดสระแก้ปัญหาภัยแล้งต้องเป็นมาตรฐานเดียวกัน

รัฐสภา -19 ต.ค.62 เวลา 16.30 น. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.จังหวัดอุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายเรื่องการตั้งงบประมาณขาดดุลว่า มีสาเหตุมาจากรัฐบาลมีรายได้ไม่พอกับรายจ่าย ที่ผ่านมาในอดีต เราตั้งงบประมาณ 1 ล้านล้านบาท ก็กู้ 4 แสนล้านบาท ปัจจุบันตั้งงบฯ 3 ล้านล้านบาทก็ยังกู้ 4 แสนล้านบาท ทั้งที่เรามีเพดานกู้ได้ถึง 6 แสนล้าน งบประมาณแผ่นดินของเรามีรายจ่ายประจำมากเกินไป แต่ละกระทรวงจึงควรประหยัดงบดำเนินการและงบร่ายจ่ายอื่นๆ หากทำได้ ประเทศเราอาจมีงบเกินดุล สิ่งที่น่าเป็นห่วงในปีนี้คือกว่าจะใช้งบประมาณปี 63 ได้ จะต้องล่วงเลยไปถึงเดือนมี.ค. ตนเสนอให้รัฐบาลส่งเสริมให้อบต. และเทศบาลทั่วประเทศ เดินทางดูงานในประเทศไทย ผลัดกันเดินทาง โดย อบต.ประมาณ 7 พันแห่ง และเทศบาล 2 พันแห่ง จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากกว่าโครงการ ชิม ช้อป ใช้

"ชาดา" แนะดูงานในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า "ชิมช้อปใช้"


"วันนี้รัฐบาลแจกไปแล้ว 13-14 ล้านบาท แต่คนก็ยังพูดว่าเศรษฐกิจไม่ดี เพราะพืชผลราคาเกษตรไม่ดี เศรษฐกิจดีขึ้นไม่ได้ คนใช้เงินคือเกษตรกร พรรคภูมิใจไทย มีนโยบายแบ่งปันผลประโยชน์ ขณะที่พรรคอื่นก็มีนโยบายประกันรายได้ ผมจึงเสนอให้รัฐบาลจัดทำออกมาเป็นกฎหมาย ประกาศให้ชัดว่าจะเอาแนวทางประกันรายได้ หรือแบ่งปันผลประโยชน์ เพราะที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลเปลี่ยน นโยบายก็เปลี่ยน ทำให้เกษตรกรไม่มีความมั่นคงในชีวิต เวลาหาเสียงแต่ละพรรคการเมืองก็นำเสนอนโยบายแตกต่างกัน หากนายกฯ สามารถกำหนดให้เป็นกฎหมาย เชื่อว่าจะเป็นอนุสาวรีย์แซ่ซ้อง" นายชาดากล่าว

"ชาดา" แนะดูงานในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า "ชิมช้อปใช้"


นายชาดา อภิปรายต่อว่า สำหรับประเด็นการแบน 3 สารเคมี มีคนออกมาท้วงติงว่าสารตัวใหม่มีราคาแพงกว่าเดิมเป็น 3 เท่าตัว แต่ตนเห็นว่าหากมีการใช้เป็นจำนวนมาก ราคาก็จะลดลงตามกลไกตลาด เพราะในอดีต พาราควอตก็เคยมรราคาแพง พร้อมเสนอให้จัดตั้งด่านตรวจสารเคมีปนเปื้อนในสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อดูแลสุขภาพของคนไทย นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตถึงนโยบายพลังงานของปตท. เพราะอีก 6 ปีข้างหน้า พ.ร.บ.กองทุนน้ำมัน จะไม่อุดหนุนพลังงานธรรมชาติ แต่ปตท.ไม่ชี้แจงงบประมาณกับสภาแห่งนี้ เพราะอ้างว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งที่หน่วยราชการทุกแห่งต้องเติมน้ำมันกับปตท. และรัฐ ยังถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นปตท.จึงไม่ใช้เอกชนที่แข่งขันกับบริษัทน้ำมันเจ้าอื่นอย่างเท่าเทียม
"ประเทศไทยมีทั้งปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม หน่วยราชการหลายแห่ง กำหนดแผนงานขุดสระกันวุ่นวาย ถ้าเอาแผนขุดสระจากทุกหน่วยงานมารวมกัน ภาคกลางคงหายไปทั้งภาค โดยสระที่จะขุดเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วมนั้นต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกันคือมีความลึก 6 เมตร" นายชาดากล่าว

logoline