svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

พาณิชย์เกาะติดเบร็กซิทดีลเตรียมพร้อมผู้ประกอบการไทย

18 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สหราชอาณาจักรและอียู บรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยการถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากการเป็นสมาชิกอียูแล้ว เตรียมนำข้อตกลงเสนอรัฐสภายุโรปและรัฐสภาสหราชอาณาจักรเห็นชอบ ภายในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ย้ำช่วงเปลี่ยนผ่านจนถึงสิ้นปีนี้ สหราชอาณาจักรยังคงเป็นสมาชิกอียูและใช้กฎระเบียบของอียู ปูทางให้ภาคธุรกิจเเละพลเมืองสองฝ่ายมีเวลาปรับตัว รวมทั้งผู้ประกอบการไทยยังมีเวลาเตรียมความพร้อมด้วย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรมอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร(นายบอริส จอหน์สัน) และประธานกรรมาธิการยุโรป (นายฌ็อง-โคล้ด ยุงเคอร์)ได้ร่วมกันแถลงว่า สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป (อียู)สามารถบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยการถอนตัวของสหราชอาณาจักรจากการเป็นสมาชิกอียูได้แล้วเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2562 และจะต้องนำข้อตกลงดังกล่าวเสนอให้รัฐสภายุโรปและรัฐสภา สหราชอาณาจักรเห็นชอบ ภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้เพื่อให้ทันกำหนดที่สหราชอาณาจักรจะต้องออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ในวันที่ 31ตุลาคม 2562 หากข้อตกลงฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาของทั้งสองฝ่ายสหราชอาณาจักรก็จะสามารถออกจากการเป็นสมาชิกอียูได้แต่จะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านจนถึงสิ้นปี 2563 ก่อนที่สหราชอาณาจักรจะเเยกตัวออกจากอียูอย่างสมบูรณ์ โดยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้สหราชอาณาจักรจะยังคงเป็นสมาชิก อียูและใช้กฎระเบียบของอียูปูทางให้ภาคธุรกิจเเละพลเมืองทั้งสองฝ่ายมีเวลาในการปรับตัวรวมทั้งผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจกับสหราชอาณาจักรและอียูก็จะมีเวลาในการเตรียมความพร้อมเช่นกัน

 

 

 

ทั้งนี้ หากรัฐสภาสหราชอาณาจักรไม่เห็นชอบข้อตกลงเนื่องจากยังมีสมาชิกรัฐสภาและพรรคการเมืองคัดค้าน สหราชอาณาจักรก็อาจมีทางเลือกคือ (1) ขอให้อียูขยายกำหนดเบร็กซิทออกไปเพื่อให้มีเวลาในการเจรจาจัดทำข้อตกลงถอนตัวที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายแต่จะยืดเวลาไปแค่ไหน ทั้งสองฝ่ายคงต้องตกลงกัน ซึ่งไม่น่าจะขยายได้นานเกินไป หรือ(2) ออกจากการเป็นสมาชิกอียูแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 ตามกำหนดเดิมซึ่งที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้เคยประกาศว่า หากเกิด no deal ได้เตรียมที่จะยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าจำนวนกว่าร้อยละ87 ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น จิวเวลรี่ ชิ้นส่วนยานยนต์ แว่นตา อาหารปรุงแต่งยางรถยนต์ เครื่องสำอาง และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น ให้กับประเทศต่างๆรวมทั้งอียู แต่จะยังคงเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้า อีกร้อยละ 13ของรายการสินค้าทั้งหมด เช่น ผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก (ไก่และเป็ด) เนื้อหมู เนื้อแกะข้าว น้ำตาล เซรามิก รถยนต์ เอธานอล เนย และชีส เป็นต้น เป็นระยะเวลา 1 ปีเพื่อให้ภาคธุรกิจมีเวลาปรับตัวและส่งผลกระทบผู้บริโภคน้อยที่สุดซึ่งผู้ประกอบการและส่งออกของไทย ควรแสวงโอกาสจากการยกเว้นภาษีดังกล่าว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับสินค้าส่งออกของไทยโดยเฉพาะสินค้าศักยภาพของไทย เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ของทำด้วยพลาสติก และจิวเวลรี่เป็นต้น 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2561สหราชอาณาจักรนำเข้าสินค้าจากไทยมูลค่า 3,963 ล้านเหรียญสหรัฐโดยสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม เช่น จิวเวอรี่ ฮาร์ดดิสก์ชิ้นส่วนยานยนต์ กระสอบและถุงทำจากพลาสติก วงจรพิมพ์ เครื่องเงิน แว่นตาเครื่องสำอางค์ ยางรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ และส่วนประกอบของเครื่องพิมพ์ เป็นต้นสำหรับสินค้าเกษตรที่มีการนำเข้าจากไทยมูลค่าสูงเป็นสินค้าโควตาภาษี เช่น ข้าวไก่แปรรูป พาสต้า ซอส และอาหารสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

logoline