svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สาวแชร์ประสบการณ์เฉียดตาย เที่ยวเม็กซิโก โดนโจรปล้นใช้ปืนจ่อหัว ก่อนโดนฉกมือถือ

18 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สาวสวยแชร์ประสบการณ์เฉียดตายจากการไปเที่ยวที่ประเทศเม็กซิโก หลังโดนโจรปล้นใช้ปืนจ่อหัว ก่อนฉกโทรศัพท์ พร้อมเตือนคนที่จะมาเที่ยวอย่าออกไปหาของกินตอนกลางคืน หลีกเลี่ยงร้านอาหารที่ไม่มีคน พร้อมเตือนให้ระวังตัวให้มากๆ

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Napha Mana ได้แชร์ประสบการณ์การเที่ยวเม็กซิโก ระบุว่า อยากมาเเชร์ประสบการณ์ความเ_ี้ยที่เกิดขึ้นให้เป็นอุทาหรณ์แก่ใครก็ตามที่คิดจะไป ออกตัวก่อนว่ามั่นหน้ามั่นใจในการเที่ยวระดับนึงเลย จากหลายปีที่เที่ยวมาก็โดนมาเยอะแล้วเหมือนกัน โดนตำรวจเรียกไปสอบที่นอเวย์ ที่เยอรมัน โดนกรีดกระเป๋าที่เวกัส โดนยกรถที่ซานฟราน โดนลักกระเป๋าตังค์ในรถไฟเอเธนส์ โดนผู้ชายทั้งโบกี้จ้องเหมือนจะเข้ามาแดกที่ตุรกี โดนเพื่อนใหม่ขโมยตังตอนลุกไปห้องน้ำในเมลเบิร์น โดนแม้กระทั่งวัยรุ่นเมากัญชาขโมยไก่เคเอฟซีที่อัมสเตอดัม
ก็ไม่เคยกลัวหรือมีภาพในหัวฝังได้เท่าทริปนี้ที่ Mexico คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ระหว่างที่นั่งแดกข้าวเย็น กำลังแดก octopus ตัวเท่าฝ่ามือ อร่อยมาก เพลินมาก ในร้านมีแค่โต๊ะเราเท่านั้น กับเชฟและเด็กเสริฟ ร้านอาหารเป็นร้านเปิดไม่มีประตู เดินเข้าออกได้สบายๆ ลมเท นั่งกินอย่างมีความสุข 
อยู่ๆมีผู้ชายสองคนเข้ามา คนนึงถือปืน คนนึงถือมีด ตอนนั้นคิดว่ามันอำ เล่นขำๆสร้างสีสันยามค่ำคืน จนเห็นเชฟกับเด็กเสิร์ฟยกมือขึ้นเหนือหัวแบบว่ายอมแล้ว คิดในใจนี่ไม่ขำแล้วแหละ ตัวแข็งมือแข็งทำอะไรไม่ถูก จนไอคนมีปืนเดินมาหากูแล้วเอาปืนจ่อหัวกู แล้วหยิบโทรศัพท์กูไป ในใจตอนนั้นกูรู้สึกเหมือนถูกพรากคนรัก เอาจริงๆใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับโทรศัพท์มากกว่ามนุษย์จริงๆอีก ใจนึกอยากฉกโทรศัพท์คืนมามาก แต่ถ้ามันยิงมาโป้งเดียวตายไม่เหลือจริงๆ พ่อแม่ที่เมืองไทยใจสลายแน่ๆ เลยได้แต่ปล่อยมันเอาไป เชฟเห็นช็อคเสียใจ เข้ามาถามกูว่าเอาชามั้ย เหมือนซีนที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติชีวิตประจำวัน 
หลังจากนั้นรถตำรวจมาสามคัน มีตำรวจสี่คน ไม่มีสักคนที่พูดภาษาอังกฤษ อ่านจากสีหน้าท่าทางเหมือนมาเพื่อปลอบใจเท่านั้น ไม่ได้ต้องการจะตามคนร้ายหรือทำอะไรสักอย่าง
ใช้กูเกิลคุยกับตำรวจ ตำรวจบอกว่าระเเวกนี้อันตราย ปล้นนี่เรื่องเด็กๆมากวันนึงมีแปดพันเคส ยิงกันตายก็บ่อย เลยให้ตำรวจขับรถไปส่งที่พักอย่างช็อคๆและหมดหวัง คืนนั้นนอนไม่หลับเลย ซีนที่มันเอาปืนจ่อหัวแล้วหยิบมือถือไปวิ่งวนซ้ำๆในหัว สุดท้ายก็ข่มตานอนพร้อมกับเสียงปืนปั้งๆดังเป็นระรอกๆ เช้าตื่นมาเรายอมทิ้งที่พักที่จ่ายไปแล้วอีกคืนนึงแล้วกลับมานอนในเมือง หาที่พักใกล้ๆบ้านประธานาธิบดี 
เหตุการณ์คืนนั้นตอบคำถามได้ครบว่าทำไมทุกตารางเมตรของ Mexico city ต้องมีตำรวจ ทุกตารางเมตรจริงๆ ขนาดร้านขายขนมปังยังต้องมีตำรวจเฝ้าสองคนหน้าประตู
ใครที่คิดจะมา Mexico ขอบอกว่าอย่ามั่นใจเท่าเรา หนึ่งเลย คนพูดภาษาอังกฤษไม่มีเลย เเม้กระทั่งวัยรุ่นก็พูดไม่ได้ ไม่เหมือนฝรั่งเศส สเปน หรืออิตาลี ที่ถึงแม้คนในประเทศส่วนใหญ่จะพูดไม่ได้ แต่ก็พอหาคนที่พูดได้บ้าง ถ้ามาขอจงเรียนภาษาสเปนพื้นฐาน หรือมากับคนพูดสเปนเป็น ระวังตัว ระวังของมากๆ แม้แต่โรงแรมก็ไว้ใจไม่ได้ โรงแรมที่อยู่ ไม่ให้เอากุญแจห้อง ของเราเองออกจากโรงแรม บอกว่าถ้าไปข้างนอกต้องทิ้งกุญแจไว้ที่โรงเเรม เพื่อsecurity 
ณ จุดนั้น ชะนีขี้โมเข้าสิงเลย ด่าไปทั้งภาษาไทยภาษาอังกฤษ ขู่ว่าจะเขียนรีวิวให้เหี้ยๆเลย ลงเอยด้วยการที่จ่ายตังค่าโรงเเรมแต่ต้องแบกกระเป๋าทุกอย่างออกไปกับตัวด้วยเวลาออกไปข้างนอก ลำบากรำเค็ญขนาดไหน กลับมานอนต้องเลื่อนตู้ไปกั้นประตู กลัวมันจะโมโหที่ไปขู่มัน แล้วมาทำร้ายตอนนอน หลอนไปหมด
ย้ำอีกทีระวังตัวระวังของมากๆ พยายามอย่าออกไปหาอะไรแดกตอนกลางคืน หลีกเลี่ยงร้านอาหารที่ไม่มีคน อย่าวางมือถือของมีค่าไว้บนโต้ะ หรือที่ที่คนเห็นง่ายหยิบง่าย อย่าวางใจ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา แม้แต่ตำรวจก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากเข้ามาปลอบใจมึงพร้อมเสนอว่าเอาน้ำหรือโคล่ามั้ย5555555 
ประเทศนี้คนเยอะ ความขัดเเย้งเยอะ คนจน คนฆ่ากัน มาเฟีย มันหลายเรื่องมากจนการปล้นจี้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ตอนนี้ภาพในหัวยังหลอนไม่หาย ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะมีคนมาเอาปืนจ่อหัว ทำตัวไม่ถูกไม่ได้เทรนมา กลายเป็นว่ารูปทุกอย่างที่ถ่ายในทริปนี้ หายไปแบบยังไม่ทันได้โพสท์ มาเที่ยวแต่ไม่มีรูป

logoline