svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชวน" สวด ส.ส. ทิ้งขยะเกลื่อนห้องประชุม

18 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ชวน" สวด ส.ส. ทิ้งขยะเกลื่อนห้องประชุม ก่อนเข้าวาระพิจารณาร่างกม.งบฯ 63 วันที่สอง "เด็กพท." ย้ำ "บิ๊กตู่" จัดงบประมาณไร้ทิศทาง แนะทบทวน เน้นกระตุ้นศก. - เพิ่มศักยภาพเกษตร ด้าน "พิสิฐ" แนะ "รบ." เร่งเบิกจ่ายงบค้างท่อ 1.003 ล้านล้านบาท เยียวยาภาวะศก.

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2ล้านล้านบาท วันที่สอง ได้เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม
โดยก่อนเข้าวาระนายชวน กล่าวต่อที่ประชุมว่าโดยขอความร่วมมือให้ ส.ส.แต่งกายแบบสมาชิกรัฐสภา หรือสากลนิยมหรือชุดพระราชทาน หรือชุดตามที่ระเบียบของสภาฯ กำหนด 
อย่างไรก็ตามตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดในห้องประชุม หลังจากที่เลิกประชุม พบเศษอาหาร เศษภาชนะห่ออาหาร เครื่องดื่มเต็มพื้นที่ ทั้งนี้ห้องประชุมสภาฯ ไม่ใช่ห้องสัมมนาและตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ถือว่าห้องประชุมต้องเป็นที่เคารพ และเป็นเขตหวงห้าม ดังนั้นตนขอความร่วมมืองดนำอาหารรับประทานในห้องประชุม
ขณะที่การอภิปรายของ ส.ส. พรรคฝ่ายค้าน เน้นการแสดงถึงเนื้อหาของการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะประเด็นไร้ทิศทางกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งเสริมศักยภาพของประชาชน อาทิ นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ขอให้รัฐบาลใช้งบประมาณส่วนงบลงทุนเพื่อเกิดประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะระบบชลประทานและสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ และการลงทุนเพื่อเกิดกระบวนการสร้างรายได้ให้กับประชาชน 
เนื่องจากสภาวสังคมโลกเปลี่ยนไป ทำให้ประชาชนมีความเสี่ยงตกงาน ทั้งนี้ในร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ไม่มีทิศทางชัดเจนสร้างรายได้ หรือกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ ดังนั้นขอให้ปรับปรุงและนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ
ขณะที่นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานีพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณ เหมือนช่วยคนรวย ขณะที่เกษตรไม่ได้รับความช่วยเหลือ ทั้งนี้รัฐบาลมีนโยบายจะแจกปลา และไก่ให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสาน ตนขอให้ยุติเพราะไม่เกิดประโยชน์ ควรนำเงินที่จะแจก 6,000 บาทให้เกษตรกรซื้อข้าวบริโภคดีกว่า 
นอกจากนั้นควรส่งเสริมการปลูกพืชฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร คือ ปลูกพืชปลอดภัย ปลอดสารเคมี ขายให้ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถขายได้ไร่ละ 1 แสนบาท และ ปลูกดอกดาวเรือง รวมถึงสนับสนุนการเลี้ยงวัว เป็นต้น
ทางด้านนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ไตรมาศ 3 เข้าสู่ภาวะถดถอยการจัดเก็บรายได้เงินได้ ภาษีเงินได้ หรือจากภาษีอากร ชะลอตัว ตัวเลข 2 เดือนสุดท้ายติดลบ ทั้งนี้ตนเป็นห่วงว่าหากรัฐบาลประเมินเศรษฐกิจดีเกินไป อาจทำให้การดำเนินนโยบายผิดพลาด รัฐบาลมีเงินค้างท่อ จำนวน ประมาณ 1.003 ล้านล้านบาท เป็นงบประมาณผูกพันที่ ครม. อนุมัติแล้ว หรือ 1 ใน 3 ของงบประมาณที่ขอจัดสรรตามร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 
ดังนั้นขอให้เร่งรัดการเบิกจ่ายดังกล่าว ช่วง 3-4 เดือนเพื่อเยียวยาภาวะเศรษฐกิจไทยไม่ถดถอย ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่าหากเร่งใช้งบประมาณดังกล่าวอาจก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขี้น แต่สามารถลดเงินคงคลังจาก 5 แสนล้านบาท หรือ 3 แสนล้านบาท จะทำให้ภาวะหนี้ไม่เป็นปัญหา
"ระบบการทำงานของรัฐบาล สำนักงบประมาณ จัดสรรงบประมาณ ได้รับข้อมูลจากสำนักงบประมาณ ว่าด้วยการอนุมัติคำของบประมาณ พบว่ากระทรวงหลัก เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ จะได้รับงบประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่กระทรวงใหม่ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะได้รับงบประมาณ 40- 50 เปอร์เซ็นต์ 
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบราชการว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณ ยังเป็นรูปแบบเดิม ไม่เกิดประโยชน์ต่อการใช้งานในกระทรวงใหม่ๆ ดังนั้นขอให้คิดใหม่"  นายพิสิฐ อภิปราย

logoline