1. ก่อนเกิดเหตุ ให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ อุปกรณ์ สะพานเบลีย์ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดภัย รวมทั้งจัดเตรียมป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนกรณีมีน้ำท่วมสูง ถนนขาด/สะพานขาดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และจัดชุดลาดตระเวนสำรวจตรวจตราในสายทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัย
2. ขณะเกิดภัย ให้ทุกหน่วยบริหารจัดการเส้นทาง อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน หรือจัดหาทางเลี่ยง กรณีเส้นทางหลักไม่สามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนรับทราบ กรณีถนน/สะพานขาด จะต้องดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ใช้เส้นทางได้อย่างรวดเร็ว เช่น วางสะพานเบลีย์ ถมดินคอสะพาน เพื่อเชื่อมทาง สนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือช่วยเหลือ และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีเมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งบูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในการบริจาคสิ่งของ ตลอดจนจัดรถบรรทุก 6 ล้อ สำหรับบริการประชาชน
3. หลังน้ำลด หากเส้นทางเกิดชำรุดเสียหายให้เข้าดำเนินการซ่อมแซมชั่วคราวให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ ภายใน 7 วัน และดำเนินการสำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา เพื่อเสนอขอสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟู ให้ถนนเข้าสู่สภาพปกติ ตลอดจนบูรณาการกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาในระยะยาวต่อไป
ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน และโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่สายด่วนทางหลวงชนบท 1146 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานทางหลวงชนบท แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ ในวันและเวลาราชการ