svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ

11 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

จากกรณีที่ภายในกองบัญชาการกองทัพบก ได้มีการบรรยายพิเศษโดย พล.อ. อภิรัชต์คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกให้เกียรติบรรยายพิเศษในหัวข้อเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง "โดยเชิญนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ ผู้นำองค์กร ผู้นำมวลชนรอบค่าย ศิลปินดารา อาทิ นางสินจัย และนายฉัตรชัย เปล่งพานิช นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.ตลอดจนสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ร่วมฟังการบรรยาย ซึ่งการบรรยายประกอบด้วยภาพและวีดิทัศน์ถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นรวมถึงการชุมนุม การก่อการร้ายในต่างประเทศ

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์บ้านเมืองทั้งภายในและนอกประเทศเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลากองทัพบกในฐานะที่รับผิดชอบดูแลด้านความมั่นคงของชาติจึงจำเป็นต้องปรับองค์กรและภารกิจให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงโดยยึดมั่นในการดำรงไว้ซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในทุกโอกาส

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ


ทั้งนี้ อาณาจักรของไทยในอดีตยิ่งใหญ่แต่เราก็เสียดินแดนหลายครั้งให้กับลัทธิผู้ล่าอาณานิคม ซึ่งล่าสุดเสียเขาพระวิหารให้กัมพูชา ตนจึงมีความรู้สึกห่วงแหนแผ่นดินในฐานะเด็กคนหนึ่งตั้งแต่ปี 2515 เห็นข่าวเฮ,คอปเอตร์ถูกผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.)ยิงตกที่ จ.ราชบุรีซึ่ง ฮ.ลำนั้นมีพ่อของตนคือ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ถูกยิงซึ่งตนก็ถามตัวเองว่าทำไมต้องยิง ฮ. พ่อตนเองด้วย ในเมื่อท่านทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน ตามที่นสพ.ไทยรัฐ เสนอข่าวว่ามีผกค.เข้าไปในหมู่บ้านและยิงชาวบ้านเสียชีวิต
ผบ.ทบ. กล่าวว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ ทหารประชาชนเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ออกและแยกกันไม่ได้โดยในช่วงหนึ่งได้ฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 แต่งเครื่องแบบทหารร่วมปฏิบัติการปราบ ผกค.ในยุทธการบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย เมื่อปี 2519โดยร่วมรบกินนอนกับทหารกระทั้งคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงจากนั้นคอมมิวนิสต์กลับออกจากป่ากลายมาเป็นนักการเมืองแต่ก็ยังฝังชิพลัทธิคอมมิวนิสต์ในหัวเป็นพวกหัวเดิมๆซึ่งปัจจุบันสงครามมีความซับซ้อนเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง อาทิ ขาดความสามัคคี การก่อการร้าย สงครามการค้าและความขัดแย้งของคนในชาติ ที่เกิดจากการปลุกปั่นของคนในชาติกันเอง
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นและส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาภาคใต้ เริ่มจาก ปี 2545 ยุคของรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศยุบศูนย์บริหารบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมกับประกาศว่า "ไม่มีโจรก่อการร้ายอีกแล้ว พวกที่เหลือเป็นแค่เพียงโจรกระจอก" ทุกคนที่นั่งตรงนี้จำได้เพราะเกิดทัน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเริ่มยุทธการใบไม้ร่วง ลอบยิง วางระเบิด เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เป็นเป้าหมายหลัก และมีการก่อเหตุหลายครั้ง และที่สะเทือนใจทหารคือ 4 ม.ค.2547 เหตุการณ์ปล้นปืน 431 กระบอก ที่กองพันพัฒนาที่4 เจาะไอร้อง นราธิวาส ถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความรุนแรงรอบใหม่
หลังจากนั้นรัฐบาลสั่งให้กองทัพบกจัดหน่วยทหารเฉพาะกิจจากกรมทหารราบ กองทัพภาคที่1 ,2 และกองทัพภาคที่3 ลงไปดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐน้อมนำประราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง พัฒนาในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นไฟส่องทาง และ ในปี 2557 ยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ภาคใต้เริ่มดีขึ้น รัฐบาลสั่งลดกำลังทหารทยอยออกจากพื้นที่ทั้งหมด เหลือ แต่ทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในส่วนตนนั้นมีความโชคดีเคยปฏิบัติงานใน3จังหวัดชายแดนใต้ 1 ปี 2 เดือนกับกำลังพลที่ร่วมปฏิบัติการด้วยกัน และโชคดีที่ได้กลับมาบ้านแต่ผู้บังคับบัญชาที่เป็นรุ่นพี่ หรือผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นรุ่นน้องตนกำลังพลคนอื่นไม่ได้กลับมาเห็นหน้าครอบครัว และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่น พ.อ.สุทธิศักดิ์ ประเสริฐศรี หรือผู้การเขียว ครูจูหลิง หมวดตี้ผู้กองแคน จ่าเพียร สมหมาย นายะ โก๊บ หร่ายมณี อิหม่ามประจำมัสยิดกลางปัตตานี พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เป็นต้น

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ


จะมีใครเข้าใจปัญหาได้ดี เข้าใจหัวใจของคนที่เคยอยู่ในภาคใต้ ได้เท่าคนปฏิบัติงาน และที่สำคัญการต่อสู้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าไหนคือประชาชนหรือผู้ก่อการร้าย เพราะแต่งตัวเหมือนกัน ความกดดันจึงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ซึ่งผู้ที่ต้องการโจมตีหน่วยงานความมั่นและรัฐบาลพยายามสร้างตัวเลขให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยที่ไม่ได้แยกว่าเป็นการเสียชีวิตจากเรื่องของความมั่นคง หรืออาชญากรรม เช่นเดียวกับกรณีของกทม. ที่มีคนเสียชีวิตจากอาชญากรรมจำนวนเท่าไหร่ ถือว่าเป็นการสร้างภาพให้ 3 จังหวัดชายแดนใต้น่ากลัว
"ไม่ใช่ว่ามาบอกว่าตายเป็นแสน แต่ไม่เคยสามารถแก้ปัญหาได้ประชาชนบาดเจ็บเท่าไหร่ ตายเท่าไหร่รัฐไม่เคยแก้ปัญหาได้นี่คือการพูดแบบนักการเมือง พูดแบบผู้ที่มีประโยชน์แอบแฝง เหตุการณ์ 3 จชต.เบาบางไปมากแล้ว แต่จะเริ่มหนักขึ้นหลังเลือกตั้ง วันที่ 24 มี.ค.2562 เมื่อช่วงต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีคนเข้ามาลอบวางระเบิดในกทม. 8 จุด ผมบอกได้เลยว่าฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ รวมถึงตัวผมจะไม่วางมือโดยเด็ดขาด ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เชื่อมโยงกับใคร ผมจะไม่มีวันวางมือ เอาคนจากข้างล่างไปว่างแผนฝั่งโน้น และมาทำในเขต กทม. หลังมีการเลือกตั้งไม่กี่เดือน หลังจากนั้นมีคนหนึ่งกลุ่มลงไปนั่งเสวนานักวิชาการ อาจารย์บางคน นั่งเทียน ไถ่โทรศัพท์มือถือแล้วบอกว่าเชี่ยวชาญชำนาญในภาคใต้ ต้องแก้ปัญหาแบบนี้ มีการยกประเด็นมาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่าประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ " พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว 
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่า รัฐธรรมนูญไทย เริ่มต้นเมื่อปี 2475 มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้ง ในวันนี้ที่ตนออกมาพูดขอย้ำว่าตนไม่ได้บอกว่ารัฐธรรมนูญแก้ไม่ได้ แต่มาตรา 1เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ เกี่ยวกับเลือดเนื้อชีวิตของบรรพบุรุษที่รักษาขวานทองไว้ ตนบอกได้เลยว่าไม่มีวัน ถึงตนตายไปทหารรุ่นใหม่ก็จะเกิดขึ้นมาทดแทน และตนเชื่อว่าฝ่ายความมั่นคงทุกคนและประชาชนที่รู้ว่าบรรพบุรุษซึ่งอาจจะเคยร่วมเป็นทหารเพื่อรักษาแผ่นดินของเราไว้
"ในโลกนี้ก็ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับไหนของประเทศใด ที่สามารถแบ่งแยกดินแดนได้ไม่มี มันจบแล้วครับ เพราะฉะนั้นจะแก้มาตราใดก็แก้ ถ้าแก้มาตราที่1ก็จะกระทบกับมาตราอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์นี้คือความชาญฉลาดของพวกนักวิชาการ ที่ไม่พูดตรงๆออกมา ว่าอยากทำอะไรอยากแก้อะไร จึงยกประเด็นมาตรา 1 เพื่อให้กระทบมาตราอื่นผมย้ำว่าไม่ได้มาขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ผมไม่ยุ่งกับการเมือง แต่นี้คือเรื่องของฝ่ายความมั่นคง" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทหารเป็นเป็นเป้าถูกโจมตีมาตลอด ทุกยุค ทุกสมัยขอให้จำไว้ทหารทุกคนไม่ว่าใครจะมาเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจทหาร พลเรือน ผู้ชายหรือ ผู้หญิง พวกตนก็รับใช้ ทำงานให้ตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมาย ไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือเลือกนาย แต่กลุ่มคนพวกนี้รู้ดีไม่ได้มองทหารปกป้องรัฐธรรมนูญหรือประเทศชาติ แต่มองทหารเป็นอุปสรรคประชาธิปไตย ทั้งๆที่ทหารก็คือประชาชนเหมือนกัน จึงมีความพยายามโจมตีทหาร เพราะทหารคือเสาหลักความมั่นคง ป้องกันอธิปไตยจึงมีวาทะกรรมขึ้นทุกครั้งมาหวังผลทางการเมือง

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ


"เอาใจน้องๆวัยรุ่น ไม่ต้องเกณฑ์ทหารบ้างละ ลดงบประมาณกองทัพบก งบประมาณกระทรวงกลาโหม จัดซื้ออาวุธทำไม หนักแผ่นดิน ประเทศไทย เปรียบเหมือนบ้านหลังใหญ่ เหนือหลังคาขึ้นไปคือสถาบันพระมหากษัตริย์" ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวยืนยันว่าคนไทยทุกคน เป็นเจ้าของ 3เสาหลักของประเทศไทย คือ 1.อำนาจนิติบัญญัติ ในการออกกฎหมายที่มาจาก ส.ส.เลือกกันมา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) 2.อำนาจบริหารซึ่งอยู่ที่คณะรัฐมนตรีข้าราชการ ในการบริหารประเทศ 3.อำนาจตุลาการซึ่งสำคัญสุดเนื่องจากอำนาจตุลาการหรืออำนาจศาล มีความพยายามทุกรูปแบบทำให้อำนาจตุลาการขาดความน่าเชื่อถือตนถามว่าการไม่เชื่อฟังหรือหลีกเลี่ยงอำนาจการตัดสินของศาลในขณะที่ประเทศทั่วโลกมีศาลและกระบวนการยุติธรรมส่วนประเทศไทยมีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา ศาลคดีนักการเมืองศาลรัฐธรรมนูญ
"ผมจำได้ว่า ประมาณปี 45-46 ได้เข้าไปติดตามสถานการณ์ ไปฟังการตัดสินการยุบพรรคการเมืองและหลังมีการตัดสินยุบพรรคการเมืองหนึ่ง เริ่มมีความไม่พอใจแสดงออกในรูปแบบต่างๆ พยายามแทรกแซงผู้พิพากษาทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ บางคนถูกตัดสินแต่ไม่อยู่ยอมรับผิด เงินซื้ออะไรก็ได้แต่เงินซื้อความยุติธรรมในประเทศไทยไม่ได้ ถ้าเราไม่นึกถึงอำนาจศาลตุลาการก็จะมีโจรทั่วบ้านทั่วเมือง ใครมีเงินทำผิดก็หนีไปต่างประเทศ จะยอมให้ 3 เสาหลักนี้ถูกเซาะกร่อน แล้วบ้านหลังนี้จะอยู่อย่างไร"พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ล่าสุดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ @sudaratofficial ภายหลังจากที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก บรรยายพิเศษ ในหัวข้อเรื่อง "แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง" ที่ หอประชุมกิตติขจร กองบัญชาการกองทัพบก โดยได้กล่าวถึงเหตุการณ์ภัยคอมมิวนิสต์ในอดีตมาถึง "สงครามลูกผสม" หรือ "สงครามไฮบริด" ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดังนี้#สงครามไฮบริด ที่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ และน่ากลัวกว่าที่ ผบ.ทบ.พูดไว้เยอะ คือการใช้กองทัพ, องค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรม ทำลายล้างคนที่คิดต่างทางการเมือง ค่ะ

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ

.

หญิงหน่อย ชี้ "สงครามไฮบริด" เคยเกิดขึ้นแล้ว และน่ากลัวกว่า "ผบ.ทบ." พูดไว้เยอะ

logoline