หลังได้รับข้อหารือจากผู้ประกอบ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าโลก และภัยธรรมชาติในประเทศที่ผ่านมา ส่งผลต่อรายได้และศักยภาพในการทำธุรกิจ ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ล่าสุด จาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงิน ให้ติดตามและปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ที่ยังมีศักยภาพ เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้ลูกหนี้กลุ่มนี้ยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการทำธุรกิจต่อไปได้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ธปท. ยังได้ออกหนังสือเวียนไปยังสถาบันการเงิน เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และนโยบายการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่สถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน ฉบับที่9 ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563
ส่วนเงื่อนไขการปรับโครงสร้างหนี้ กรณีเป็นลูกหนี้ระดับ 2 หากลูกหนี้ชำระหนี้ติดต่อกันเป็นเวลา 3 งวด ให้ปรับขึ้นเป็นลูกหนี้ระดับ 1 ได้ทันที เช่นเดียวกับการปรับโครงสร้างหนี้ที่เป็น NPL หากลูกหนี้ ชำระหนี้ได้ติดต่อกัน 3 งวด ตามเงื่อนไขใหม่ ก็สามารถเลื่อนชั้นลูกหนี้จากระดับ 3 ขึ้นมาเป็นระดับ 2 ได้เช่นเดียวกัน และหลังจากนั้น หากพบว่าลูกหนี้ไม่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ก็สามารถปรับระดับ จากระดับ 2 ขึ้นมาเป็น ระดับ1 ได้ในที่สุด