โดยข้อมูลพบว่าคนไทย 69 ล้านคน มีโทรศัพท์มือถือ 92 ล้านเลขหมาย ซึ่งคนไทยใช้โทรศัพท์เข้าสู่ระบบโซเชียลสูงถึง 51 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 3 ชั่วโมง 11 นาที จากปริมาณการใช้โทรศัพท์มือถือตลอดทั้งวัน 9 ชั่วโมง 11 นาที
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคม โดยเฉพาะธุรกิจสื่อ ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพราะประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ เพื่อเป็นผู้สื่อข่าวได้ตลอดเวลา ดังนั้นสื่อจำเป็นต้องปรับตัวเอง ให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ดังนั้นในส่วนของเนชั่น กรุ๊ป จึงปรับกลยุทธ์มุ่งสู่การทำคอนเท้นท์ดิจิทัลมากขึ้น ด้วยการใช้ศักยภาพของแบรนด์เนชั่นที่มีอยู่มาก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับการพัฒนาเนื้อหา หรือ คอนเท้นท์ที่น่าสนใจ เพื่อดึงยอดผู้ติดตามให้เพิ่มมากขึ้น
โดยปัจจุบันเครือเนชั่นมีฐานเข้าชม หรือ ยอดวิว เว็บไซต์และสื่อออนไลน์หมดประมาณ 10 ล้านรายต่อวัน ซึ่งถือว่าสูงมาก ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะสามารถพัฒนายอดวิวให้ได้เป็น 20 และ 25 ล้านคนได้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ทิ้งสื่อทีวี เพราะยังคงเป็นสื่อหลักที่มีความสำคัญ โดยเนชั่นจะยังคงพัฒนารายการทีวีให้น่าสนใจมากขึ้นในปีหน้า พร้อมทั้งปรับปรุงสตูดิโอให้ทันสมัยและดึงดูดผู้ชมให้มากขึ้น
พร้อมทั้งยังร่วมกับพันธมิตรในการกระจายคอนเม้นท์ด้านมัลติมีเดียให้ออกสู่สังคมมากขึ้น
"เนชั่นเป็นสื่อที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ก็ต้องคิดว่าในสถานการณ์แบบนี้เเราจะอยู่รอดได้ไหม ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมสื่อทั้งหมดด้วย แต่ด้วยภายใต้สื่อภายในเครือ ที่มีแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ รวม 8 แบรนด์ อายุมากสุดถึง 49 ปี เรามั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านจุดนี้ไปได้ เพราะเรามีทั้งแบรนด์ที่แข็งแกร่ง คอนเท้นท์ที่น่าสนใจ และสื่อสังคมออนไลน์ที่ติดตามเราอยู่สูง" นายฉาย กล่าว
นอกจากนี้ เครือเนชั่นยังจะพัฒนาธุรกิจใหม่ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ ทั้งการจัดทำอีเว้นต์ รวมถึงการทำเทรนนิ่ง และจัดการสอนการแอพพลิเคชั่น รวมทั้งการทัวร์ผู้บริหารในการดูงานสำคัญของโลก และทำผลิตภัณฑ์แบรนด์เนชั่น เพื่อเพิ่มรายได้ เพิ่มเติมรายได้จากโฆษณาที่ผ่านจากทีวีและออนไลน์เท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี