สถานการณ์การประท้วง ทำให้ประเทศที่มีประะชากรราว 17 ล้านคน ตกอยู่ในสภาพหยุดชะงักขั้นอันตราย เมื่อประเทศเป็นอัมพาต ระบบการขนส่งสาธารณะขาดแคลน มีการปิดถนน สร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจที่อ่อนแออยู่แล้วของประเทศ โดยจากการเข้ายึดหน่วยงานเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ทำให้การผลิตน้ำมันของบ่อน้ำมันหลายแห่งต้องหยุดลง คิดเป็นปริมาณ 6 หมื่น 5 พันบาเรลต่อวัน
ความรุนแรงเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว หลังประธานาธิบดีเลนิน โมเรโน่ ประกาศตัดลดการสนับสนุนด้านพลังงาน ส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงสููงขึ้นอย่างมาก และเมื่อคืนวันจันทร์ ประธานาธิบดีประกาศว่า จากปัญหาเรื่องความปลอดภัย รัฐบาลจึงย้ายมาทำงานอยู่ที่เมืองท่า กัวยากิล แทนที่จะเป็นในเมืองหลวง แต่เขาบอกว่าจะไม่ยอมถอยในเรื่องการตัดสินใจลดการสนับสนุนด้านการพลังงาน โดยรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อพยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย
ขณะที่เมื่อวาน ผู้นำเอกวาดอร์บอกกว่าประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอล่า อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เขาหวังที่จะสร้างความไร้เสถียรภาพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก่อรัฐประหาร ขณะที่อดีตประธานาธิบดีราฟาเอล คอร์เรีย ที่อยู่ในตำแหน่งก่อนหน้าเขา มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับมาดูโร
ด้านนายฮวน ไกวโด แกนนำฝ่ายค้านเวเนซุเอล่าก็ออกมาประสานเสียงกับผู้นำเอกวาดอร์ โดยบอกว่ามาดูโร่ เอาเงินของประเทศไปใช้เพื่อสร้างความเดือดร้อนให้บ้านเมืองอื่น ขณะที่นักการเมืองฝ่ายมาดูโรบอกว่าปัญหาในเอกวาดอร์เกิดขึ้นเพราะผู้นำประเทศไปยอมก้มหัวให้กับธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ
ขณะที่ในวันนี้ กลุ่มผู้ประท้วงบอกว่าจะมีการผละงานทั่วประเทศ โดยนับตั้งแต่ที่เริ่มประท้วง มีผู้ประท้วงถูกจับกุมแล้วประมาณ 500 คน