svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

Nation Documentary | เสือ สิ้น ลาย

07 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มากไปกว่าคุณภาพชีวิตของเสือของกลาง คือปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นภายในวัด เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าผลประโยชน์ ย่อมเป็นที่สิ่งหอมหวลเสมอ

นี่คือ บรรยากาศในวัดป่าหลวงตามบัว ญาณสัมปันโน ก่อนปี 2559 ที่นี่รู้จักกันในชื่อ "วัดเสือ" เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก เสือที่เป็นสัตว์ป่าดุร้ายน่ากลัวในความเข้าใจของคนทั่วไป กลับมีภาพที่สวนทาง พวกมันมีนิสัยอ่อนโยน เชื่องและเลี้ยงง่ายนักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อเข้าไปถ่ายรูปกับเสือ แล้วนำไปบอกต่อกันว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต เคยได้มาสัมผัสกับสัตว์ป่าดุร้าย อย่างใกล้ชิด ทั้งๆที่พวกมันสามารถขย่ำกินมนุษย์เข้าไปได้ทั้งคน ภายใต้ภาพของเสือที่กลายเป็นสัตว์อ่อนโยนไม่ต่างจากแมว คือภาพของความศรัทธา พระภิกษุสงฆ์ซึ่งตัวแทนของคนธรรมดาๆ แต่สามารถควบคุมสัตว์ดุร้าย ให้กลายเป็นสัตว์ที่เชื่องช้า และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติพระวิสุทธิสารเถร หรือหลวงตาจันทร์ ขันติธโร เจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เคยบอกถึง การสื่อสารผ่านจิตระหว่างมนุษย์กับสัตว์ดุร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วัดป่าหลวงตาบัวก็คงจะเป็นวัดเสืออยู่อย่างนั้น และเสือก็คงจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ มีการเตรียมพื้นที่เพื่อกว่า 2000 ไร่เพื่อขยายเป็นสวนสัตว์เปิด รองรับนักท่องเที่ยว และข้อมูลย้อนหลังทำให้เราทราบว่า วัดมีรายได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน แต่ทุกอย่างก็สะดุดลงหลังจากพบว่า วัดมีการลักลอบค้าสัตว์ป่า และหาผลประโยชน์อย่างผิดกฎหมายจากเสือฝากเลี้ยงเหล่านี้วัดป่าหลวงตาบัวเลี้ยงเสือโคร่งมาตั้งแต่ปี 2542 โดยอ้างว่ามีคนนำลูกเสือป่วยมาให้ดูแล กลางปี 2544 เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเสือโคร่งซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจึงยึดเสือ 7 ตัวเป็นของกลาง แต่ฝากให้วัดดูแลไปก่อน กว่าสิบปีผ่านไปเสือโคร่งในวัดเพิ่มจำนวนเป็น 147 ตัว จากการผสมพันธุ์กันเองหลังจากที่สื่อมวลชนต่างชาติรายงานพบหลักฐานที่เชื่อว่ามีการลักลอบค้าเสือที่วัด เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและพบสัตว์ป่าอื่นๆทั้งนกเงือกและมีควาย และยังพบซากลูกเสือ พร้อมกับอวัยวะสัตว์จำนวนมากเก็บไว้ในห้องเย็น ทั้งยังมีการแปรรูปอวัยวะเสือ เป็นเครื่องรางของขลังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตะกุด หรือผ้ายันต์ ที่ทำมาจากเขี้ยวและหนังของเสือจำนวนมากนอกจากนี้ ยังพบพิรุธจากกรณีเสือ 3 ตัวที่ติดไมโครชิพหายไป มีการสลับเปลี่ยน ยิ่งตอกย้ำว่าวัดไม่โปร่งใสกับการดูแลเสือเหล่านี้ และพยายามหาผลประโยชน์ เกินกว่ากิจของความเป็นศาสนสถาน

แต่มาจนถึงวันนี้ หลวงตาจันทร์ก็ยังปฏเสธทุกข้อกล่าวหากลางปี 2559 เสียงปืนลูกดอกยาสลบนัดแรก ดังขึ้น ยิงใส่เข้าเสือที่ดูเชื่องช้าในกรง ให้สงบไป เจ้าหน้าที่ขนเคลื่อนย้ายเสือโคร่งทั้งหมดไปยัง สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน และเขาประทับช้าง ที่จังหวัดราชบุรี ในระหว่างที่คดีความ ยังดำเนินไปตลอด 3 ปี ไม่มีใครรู้ว่าเสือที่ย้ายไปในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าทั้ง 2 แห่งและมีความเป็นอยู่อย่างไร
และนี่ก็คือคลิปภาพที่ปรากฏออกมา ท่ามกระแสข่าวล่าสุดว่าเสือทยอยตาย พวกมันรูปร่างผอมโซ หายใจโรยริน และไม่มีแรงพอที่จะคำรามออกมา
นำมาสู่การแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยอมรับว่าเสือของกลางทยอยตายไปตั้งแต่ปี 2559 รวมแล้ว 86 ตัว โดยระบุว่าเสือที่ยึดมาจากวัดมีสุขภาพอ่อนแอมาตั้งแต่แรก จากการผสมพันธุ์เลือดชิด ประกอบกับความเครียดจากการเปลี่ยนสถานที่และติดเชื้อไวรัสไข้หัดสุนัขแม้วัดป่าหลวงตาบัว ยังคงมีปมในเรื่องของการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จากเสือที่กรมอุทยานฝากเลี้ยงไว้ แต่คำถามก็คือระหว่างวัดกับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ที่อยู่ในความดูแลของกรมอุทยา ใครดูแลเสือได้ดีกว่ากันทีมข่าวของเราจึงย้อนกลับไปดู สถานที่เลี้ยงเสือของวัดป่าหลวงตาบัวอีกครั้งพี่เพชร สิงโตเพศผู้อายุ 14 ปี เป็นสิงโตตัวเดียวที่ยังหลงเหลือ อยู่ในวัดป่าหลวงตามหาบัว
กรงของ 'พี่เพชร' สะอาดสะอ้าน มีคนเข้ามาทำความสะอาดทุกวัน เปิดประตูให้ออกไปวิ่งเล่นได้ในพื้นที่จำนวน 2 ไร่ได้อย่างอิสระ ได้กินไก่ต้ม วันละ 3 กิโลกรัม ในวันที่เราไปเยี่ยมพี่เพชร พี่เลี้ยงตะโกนคุยกับพี่เพชรอย่างสนิทสนมเราได้ยินเสียงคำรามที่ดังกึกกลอ้ง ดูเหมือนว่าวันนี้พี่เพชร จะอารมณ์ดีเป็นพิเศษอดีตผู้ดูแลเสือในวัดป่าหลวงตาบัว พาเราดูสถานที่ต้มไก่ สำหรับเสือ 147 ตัว วันนี้หลงเหลือแต่เพียงความว่างเปล่า เขายังคงจดจำได้ดี ถึงวันที่เสือยังอยู่ในวัด และรู้สึกสงสารเมื่อทราบข่าวว่า เสือที่อุทยานฯ นำไปเลี้ยงต่อทยอยตายและในฐานะของคนที่เลี้ยงเสือมากับมือ เป็นเวลา 15 ปี หลวงตาจันทร์ยังรู้สึกสงสาร ซึ่งหากกรมอุทยานเลี้ยงไม่ไหว ก็พร้อมที่จะรับเสือกลับมาเลี้ยงด้วยตัวเอง'หลวงตาจันทร์' ยังเป็นห่วงอีกว่า เสือแต่ละตัวนั้นมีมูลค่าทุกชิ้นส่วน จำนวนเสือที่ตายไปแล้ว 86 ตัว ไม่ว่าจะเป็นเขี้ยว หนัง ขน หรืออวัยวะเพศ ต่างๆ ล้วนมีมูลค่าทั้งสิ้น ซึ่งต้องการความโปร่งใสในเรื่องนี้ แม้จะได้รับคำยืนยันจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่าทุกชิ้นส่วนของเสือที่ตายแล้วต่างๆยังอยู่ครบหลังจากเสือของกลางทยอยตายจนเป็นข่าวออกมา ทีมข่าวของเราทำหนังสือขอเข้าไปตรวจสอบในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง จ.ราชบุรี หนึ่งในสถานที่ ที่นำเสือของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัวมาเลี้ยงต่อ ใช้เวลาหลายวันไม่ได้รับการตอบรับ กระทั้งในที่สุดกรมอุทยานฯ ตัดสินใจพาทีมข่าวทุกสำนักลงพื้นที่พร้อมกัน เพื่อดูการกำจัดซากเสือของกลางที่ตายแล้ว อย่างถูกต้อง
คณะสื่อมวลชนที่ไปพร้อมกับเรา ไม่มีเพียงแค่สื่อสำนักข่าวใหญ่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังได้รับความสนจากสื่อต่างชาติหลายสำนัก เจ้าหน้าที่เริ่มต้นด้วยการล้อมวงคุยกับสื่อมวลชนอธิบายถึงสาเหตุการตายของเสือโคร่ง ทั้ง 86 ตัว ว่าไม่ได้เกิดจากการเลี้ยงดูที่ผิดพลาด แต่เกิดจากสุขภาพที่อ่อนแอมาก่อนหน้านี้หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ พาเราเข้าไปยังส่วนหนึ่งของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งเป็นสถานที่เก็บซากสัตว์เสือที่ตายแล้ว บรรจุอยู่ในถัง 200 ลิตร แช่ฟอร์มาลีนเข้มข้นเจ้าหน้าที่แต่งตัวมิดชิด เปิดถัง 200 ลิตรออกมา พร้อมด้วยกลิ่นซากเน่าคละคุ้ง และแสบตาจากไอระเหยของฟอร์มาลีน พวกเขานำเหล็ก คุ้ยกับซากเสือออกมาจากถัง เพื่อให้เห็นว่าทั้งหนัง หาง เล็บ เขี้ยว ทุกอย่างยังอยู่ครบซากเสือจะถูกแช่ฟอร์มาลีนเอาไว้อย่างนี้ จนเปื่อยยุ่ยไม่สามารถเอาส่วนใดออกมาใช้ประโยชน์ได้อีก เพื่อยืนยันว่าเสือของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดิน จะไม่มีการเอาชิ้นส่วนใดไปใช้ประโยชน์ ซ้ำรอยกับวัดป่าหลวงตาบัวอย่างเด็ดขาดและช่วงเวลานี่เป็นช่วงที่สื่อทุกสื่อรอคอย เจ้าหน้าที่พาเราเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ของเสือที่ยังมีชีวิต ซึ่งอยู่เข้าลึกเข้าไปด้านในของสถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่าที่บริเวณนี้มีเสือโคร่งที่มาจากหลายแห่งถูกเลี้ยงรวมอยู่ด้วยกัน เสือขี้เล่นตัวนี้ที่อยู่ในกรงแรกตัวนี่ เป็นเสือที่ยึดมาจากเกาะสมุยยังไม่ใช่เสือที่มาจากวัดหลวงตาบัว เสือที่มาจากวัดหลวงตาบัว อยู่ในกรงถัดไปด้านในเจ้าหน้าที่บอกว่า พวกเขาเลี้ยงดูเสือด้วยการให้ไก่สดไม่ใช่ไก่ต้มอย่างที่วัดเคยให้ หลังจากให้ไก่สดแล้วก็จะให้ใบไผ่กินเข้าไปเพื่อให้สำรอกออกมา เป็นการล้างลำไส้เสือที่มาจากวัดหลวงตาบัวที่เราเห็นในวันนี้มี 2 ตัว ที่เหลืออยู่ด้านไปอีก พวกมันมีอาการตื่นคนที่มากันเยอะ ดูแล้วก็น่าจะเป็นเสือที่มีสุขภาพแข็งแรงที่สุด และเจ้าหน้าที่บอกว่า อยากจะเลี้ยงดูให้ดีที่สุดหลังจากนี้
ส่วนนี่คือกรงเลี้ยงเสือที่กำลังมีการขยายพื้นที่ออกไปให้กว้างขึ้นนั่นหมายความว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเสือของกลางที่นำมาจากวัดป่าหลวงตาบัว ต้องอยู่ในพื้นที่แคบๆ แม้จะไม่มีการหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่ตายเหมือนอย่าง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณภาพชีวิตของเสือที่อยู่ที่นี่ต่างจากที่วัดเสืออย่างแน่นอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เป็นหนึ่งในหน่วยงานภาคประชาสังคม ที่ติดตามปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่ามาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่ปฏิเสธว่าเสือจำนวน 147 ตัวที่ย้ายจากวัดป่าหลวงตาบัว มาอยู่ในการดูแลของกรมอุทยานฯ มีความเป็นอยู่ที่ต่างออกไปจากเดิม และยอมรับว่าไม่มีหน่วยงานไหนที่มีความพร้อมในการรับเลี้ยงเสือจำนวนมากขนาดนี้ แต่ปัญหาไม่ได้ที่การเลี้ยงดู หากแต่ปัญหาอยู่ที่มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าภายในวัด
ลูกเสือเพศผู้วัย 6 เดือน ตัวนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับมาจากฟาร์มเลี้ยงเสือแห่งหนึ่ง มันเดินกระเพกกระเพกด้วยขาที่อ่อนแรง เป็นผลกระทบจากภาวะเลือดชิด เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ ต้องทำกายภาพบำบัดให้ทุกวัน วันละ 3 เวลา และหลังจากที่ลูกเสือตัวนี้โตขึ้น ก็จะต้องถูกส่งต่อให้กับกรมอุทยานตามข้อบังคับของกฎหมายผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า เสนอว่าควรมีการแก้ไขกฎหมาย พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ที่เปิดให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมในการดูแล ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระของกรมอุทยานฯ
ผ่านมากกว่า 3 ปีแล้ว ที่เสือวัดป่าหลวงตาบัวถูกย้ายออกมา อยู่ในการดูแลของกรมอุทยานฯ ถ้าเสือเหล่านี้ไม่ทยอยตาย ก็คงจะไม่มีใครติดตามว่า สภาพความเป็นอยู่ของเสือเป็นอย่างไร ดีหรือแย่กว่ากันมากน้อยแค่ไหน
มากไปกว่าคุณภาพชีวิตของเสือของกลาง คือปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นภายในวัด เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าผลประโยชน์ ย่อมเป็นที่สิ่งหอมหวลเสมอ ..

logoline