ปัจจัยดัน "อนาคตใหม่" ชนะเลือกตั้งซ่อมนครปฐม

3 พรรคที่ว่า ประกอบด้วย อนาคตใหม่ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ที่ต่างเฟ้นหาตัวผู้สมัครเบอร์หนึ่งในพื้นที่ของพรรคมาลงแข่งขัน แต่ที่ดูจะเป็นประเด็นให้ต้องติดตามผลต่อจากนี้ กรณีพรรคร่วมรัฐบาล อย่าง ประชาธิปัตย์ ที่ส่ง สุรชัย อนุตธโต และ ชาติไทยพัฒนา ส่ง เผดิมชัย สะสมทรัพย์ เจ้าของพื้นที่เดิม เข้าสู่สนามเลือกตั้งซ่อมนครปฐม จนทำให้ถูกมองว่าเป็นการตัดแต้มกันเองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล


ส่งอานิสงส์ให้พรรคฝ่ายค้านอย่างอนาคตใหม่ ที่สามารถคว้าชัยไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม กลับมาโกยคะแนนแบบสะดวกโยธินอีกครั้ง หากส่องปัจจัยทำให้รัฐบาลต้องศิโรราบกับการเลือกตั้งซ่อมครั้งจะถึงนี้ เห็นทีหนีไม่พ้นเรื่องของความไม่เป็นเอกภาพ จากการถอดรหัสคำให้สัมภาษณ์ระดับแกนนำสามมิตร "สมศักดิ์ เทพสุทิน" ดีกรีรัฐมนตรียุติธรรม ที่บอกไว้ช่วงหนึ่ง "เดิมคิดว่าจะมีผู้สมัคร ส.ส. จากพรรคร่วมพรรคเดียว คือ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 2 ในครั้งก่อน แต่พอมี 2 คน จึงต้องมาคุยกัน"
เมื่อนำรหัสมาขยายให้ทะลุปุโปร่ง โดยอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต บุญโปร่ง สะท้อนถึงปัจจัยทำให้รัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐมนี้ เนื่องด้วยประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ต่างก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่กลับส่งผู้สมัครลงเหมือนกัน ส่วนพลังประชารัฐในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ไม่ส่งใครซึ่งถือเป็นมารยาททางการเมือง ประกอบกับ อนาคตใหม่มีการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูการโจมตีรัฐบาล และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วันวิชิต วิเคราะห์ต่อว่า นอกจากภาพรวมดังกล่าวแล้ว กลุ่ม ส.ส. ของอนาคตใหม่ รู้รูปแบบและวิธีการหาเสียงโดยเฉพาะของตระกูลสะสมทรัพย์ ขณะเดียวกัน พื้นที่เลือกตั้งซ่อมอยู่ในอำเภอสามพราน แม้เป็นปริมณฑล แต่เป็นพื้นที่เขตโรงงาน ดังนั้น ความคุ้นเคยระหว่างผู้สมัครกับผู้มาใช้สิทธิ จึงมีความไม่ยึดโยงกัน ส่วนรัฐจะกลับมาชนะหรือไม่นั้น แม้กำหนดให้วันเลือกตั้งซ่อมเป็น 23 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นวันหยุด แต่เชื่อว่าคะแนนยังคงไหลมายังอนาคตใหม่ โดยยอมรับว่าอาจไม่เท่ากับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม แต่มั่นใจว่าชาติไทยพัฒนาไม่สามารถแทรกเข้ามาได้ จะเหลือเพียงการแข่งขันกันระหว่างอนาคตใหม่และประชาธิปัตย์

สำทับด้วย อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร อิสรชัย ฉายมุมมองในทำนองเดียวกัน เหตุผลที่ทำให้รัฐบาลไม่ชนะการเลือกตั้งซ่อมนครปฐมนั้น มาจากหลายปัจจัย อย่างแรก การเลือกตั้งซ่อมไม่ใช่การเมืองระดับชาติ เป็นเพียงการเลือกตั้งในพื้นที่เท่านั้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลถูกตำหนิในเรื่องของเศรษฐกิจการเมือง รวมทั้ง หัวหน้าอนาคตใหม่ ประกาศว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการพิพากษา (ลุงตู่) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงถือเป็นการลงมติของฝ่ายค้านนอกสภา

รองศาสตราจารย์ ดร.ยุทธพร ยอมรับว่า การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐม แตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งถือว่าเป็นระดับชาติ อีกทั้ง มองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้บริบทการเมืองเปลี่ยนไป ส่วนการกำหนดวันเลือกตั้งซ่อมให้เป็นวันที่ 23 ตุลาคมนั้น แม้เป็นวันหยุดแต่ตรงกับช่วงวันธรรมดา อาจส่งผลต่อคะแนนของแต่ละพรรคในการเลือกตั้ง แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ยังเชื่อว่าอนาคตใหม่ยังคงได้คะแนแต่ไม่มากเท่ากับการเลือกตั้งทั่วไป
การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดนครปฐมที่กำลังคืบคลานมาถึง นับว่าเข้มข้มทุกฝีก้าว รวมทั้งให้ต้องติดตามกลยุทธ์ของแต่ละฝ่ายจะสามารถแย่งและช่วงชิงฐานเสียงของอีกฝ่ายกลับมาไว้ในมือได้หรือไม่ โดยเฉพาะจากฝากรัฐบาลที่ต้องมาห่ำหันคะแนนกันเอง หรือจะต้องเสียศูนย์ไปแบบถาวรให้พรรคน้องใหม่หัวใจสีส้ม