svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

โพสต์แรกของ "ทราย-อินทิรา เจริญปุระ" หลังสูญเสียคุณแม่

06 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อวานนี้(5 ต.ค. 62) นับเป็นเรื่องอีกหนึ่งข่าวที่แสนเศร้าสำหรับนักแสดงสาว ทราย-อินทิรา เจริญปุระ ที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เศร้าสูญเสียคุณแม่ สุภาภรณ์ เจริญปุระ ไปอย่างไม่มีวันกลับ ล่าสุด "ทราย" ดาราสาว ได้โพสต์ข้อความและภาพคุณแม่สุภาภรณ์ เจริญปุระ ในเฟซบุ๊กชื่อ Inthira Charoenpura โดยระบุว่า...

วันนี้โมโม่แอบวิ่งเข้าไปในห้องคุณแม่ช่วงที่กำลังชุลมุนกัน กว่าจะรู้ว่าแมวหายก็ตอนเกือบจะไปหาแม่อีกรอบที่วัดนั่นล่ะทรายเดินหาโมโม่ เห็นนอนสบายอยู่บนที่นอนแม่ เลยไปอุ้มออกมาบอกว่าโมโม่ต้องเป็นเด็กดีนะลูก วันนี้แม่ไม่อยู่ แม่ไปหาคุณยายที่วัด
จริงๆทรายกลัวมาตลอดนะ ว่าจะเป็นคนตายก่อนแม่ กลัวไม่ได้ทำศพให้อย่างที่แม่ได้สั่งเอาไว้ กลัวคนอื่นจะไม่รู้ใจแม่เท่าทราย แต่จริงๆมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่อธิบายให้ใครเข้าใจได้ยากเท่านั้นเอง
"อย่าให้คนเห็นชั้นไม่สวย" แม่ย้ำเรื่องนี้เสมอ บ้านเราพูดถึงความตายกันเป็นปกติ แม่เลือกรูปหน้าศพด้วยตัวเอง เอาไปอัดใส่กรอบอย่างดี แล้วบอกลูกทุกคนว่าต้องใช้รูปนี้นะ"ไม่งั้นชั้นจะมาหลอก"
เรื่องระหว่างเราสองคนมันเยอะมาก เยอะจนถ้าทรายนั่งคิดย้อนวันละเรื่อง ก็คงมีอะไรให้คิดเหลือเฟือไปจนกว่าทรายจะตาย เพราะทรายเป็นลูกคนแรกของแม่ เป็นลูกสาวแบบที่แม่ตั้งใจไว้ อะไรๆระหว่างเรามันไม่ได้ง่าย ภาพแรกๆของแม่ที่ทรายจำได้คือแม่ร้องไห้บ้าง รอหมอบ้าง หรือโดนจับอาบน้ำมนตร์กลางแจ้งหน้าบ้านเราตามใจยาย ก่อนจะไปกินยา ทรายยังจำความรู้สึกกลั้นหายใจตอนรอตำรวจเดินมาหา เพราะแม่เล่นจอดรถตรงแยกบางพลัดแล้วไม่ขับต่อทั้งที่ไฟเขียวขึ้นนานแล้ว"พี่ทรายหมุนกระจกบอกตำรวจ บอกแม่ไม่สบาย เดี๋ยวเค้าจะมาเอารถไป อย่าเปิดประตูลงไปนะ" แม่สั่งทั้งที่หลับตา แต่พอตำรวจเดินมาเคาะกระจกจริงๆ แม่ก็ขับรถต่อได้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"คุณแม่ไหวมั้ย" ฉันถาม
"ไหวมั้ย?" นี่ดูจะเป็นคำถามที่อยู่คู่ความสัมพันธ์ของเรา มีทั้งคุณแม่ถามทราย ทรายถามคุณแม่ และเราถามกันเอง แต่ละครั้งที่ถามก็อยู่ในอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไปแต่ส่วนใหญ่เราก็จะไหวกันทั้งคู่แหละ แม้ว่าในใจจะเป็นอย่างอื่นก็ตาม
2-3เดือนนี้เป็นเดือนที่ยากมากๆสำหรับทราย มันไม่ชินที่ไม่มีกองนะคุณแม่ แต่ก่อนทรายก็งงว่าคุณแม่จะเครียดอะไรนักหนา หน้าฝนไม่ต้องออกกองนี่ดีจะตาย ทรายได้นอนอ่านหนังสือ หรือไปงานแบบที่ถ้าแม่รู้ แม่ก็จะบอกว่าไม่เห็นจะได้ประโยชน์หลายงานแต่พอต้องมาถือคิวตัวเอง ทำเรื่องรายรับรายจ่ายตัวเอง ทรายก็อยากจะหัวเราะ ว่าเอาเข้าจริงทรายเครียดกว่าคุณแม่เสียอีกเวลาไม่มีงาน ต้องลุกขึ้นมารื้อข้าวของ ทำอะไรๆให้พอบอกกับตัวเองได้ว่าฉันมีงานทำ
ว่างๆอยู่หลายวันจนมีคนโทรมานัดถ่ายรายการวันจันทร์นี่ล่ะ โอ้โห พี่ทรายแทบจะลุกขึ้นมารำ ในหัวนี่ไม่เห็นค่าตัวเป็นเงินเลย เห็นเป็นผ้าอ้อมแม่กับเงินเดือนพี่เพ็ญ กับเสียงเครื่องอบผ้าที่จะได้ทำงานอย่างราบรื่น
หลังๆมานี่เราใช้งานมันสนั่นแบบที่ถ้าแม่เห็นคงกรี๊ด แล้วออกไปซื้อมาเพิ่มอีกเครื่องทันที เพราะแม่ไม่ชอบรอ แถมไม่ชอบให้อะไรๆไม่เป็นอย่างใจ จะมาปั่นๆอบๆกันทีละผืนสองผืนทั้งวันมันเปลืองไฟ ชั้นซื้อสองเครื่องให้มันช่วยกันทำดีกว่า ไหนๆก็จ่ายแล้ว ชั้นจะได้ไม่ต้องมารอต่อคิวเครื่องอบ ตรรกะแม่จะงงๆอยู่แบบนี้เสมอ แต่ทรายก็ไม่ได้ว่าอะไร แม่อยากใช้เงินทำอะไรก็ใช้ไปเหอะ
และถ้าแม่รู้ว่าที่อบผ้ากันทุกวัน ทุกผืน เป็นผ้าห่มผ้ารองนอนแม่ พี่ทรายก็คิดว่าแม่คงไม่ว่า เพราะแม่ชอบอยู่กับกลิ่นสะอาด แม่ไม่ชอบกลิ่นโรคภัยไข้เจ็บ โฆษณาน้ำยาซักผ้าเขาบอกว่ามันเป็นกลิ่นแดดยามเช้า เอาเข้าจริงพี่ทรายก็ไม่รู้หรอก ว่ากลิ่นแดดยามเช้ามันเป็นยังไง แต่ก็คิดว่าถ้าแม่จะรู้ตัว แม่ก็คงชอบมันมากกว่ากลิ่นอะไรอื่นๆ เพราะนั่นหมายถึงว่าเราผ่านเวลามาจนถึงยามเช้าได้อีกวัน
วันนี้ทีมงานที่รายการโทรมาถาม ว่าพี่ทรายไหวมั้ยคะ ที่จะไปถ่ายรายการวันจันทร์นี้?มันอาจจะดูแปลกๆนะคุณแม่ แต่ทรายบอกว่าไหว และทรายคิดว่าถ้าแม่ยังอยู่ แม่ก็จะให้ทรายตอบแบบนี้ หรือไม่ก็ตอบเองอย่างที่ทำมาตลอด"พี่ทรายไหวอยู่แล้วเนอะลูก"ไหวค่ะต้องไหวจะเป็นยังไงทรายก็ต้องไปต่ออยากให้เป็นเหมือนแต่ก่อนที่แม่จะเอาซองหรือเช็คค่าตัวมาลูบหัวลูบตัวทราย "น่ารักกกกก เก่งมากพี่ทราย เฮง เฮง เฮงนะลูก" แล้วก็นั่งขำกันสองคนที่เราเล่นแบบนี้เหมือนแม่ค้าเปิดร้าน
วันนี้สวดศพคุณแม่คืนแรก พอทรายกลับบ้านโมโม่ก็งัวเงียรออยู่หน้าประตู เห็นมั้ยคุณแม่ ที่แม่บอกว่าแม่ไม่ชอบหมาเพราะมันน่าเบื่อที่ดีใจตลอดเวลา และไม่ชอบแมวเพราะมันหยิ่ง เรียกก็ไม่มาหาเนี่ย มันก็ไม่จริงเสมอไปอะไรๆในชีวิตมันก็ไม่แน่ไม่นอนแบบนี้เราแค่มีหน้าที่เดินต่อไปไหวแหละเนอะ
พี่ทรายเอง :))
(6/10/2019)

logoline