svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์

05 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ข่าวการทำอัตวินิบาตกรรมของดาราหนุ่ม ภายในคอนโดฯ ของตัวเอง และคดีปริศาการเสียชีวิตของพริตตี้สาวชื่อดัง เมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่าน กลายเป็นข่าวโด่งดังจนสังคมให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งนอกจากความสูญเสียของครอบครัว และการหาตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีคนบางกลุ่มให้ความสนใจก็คือ สิ่งของที่อยู่กับผู้เสียชีวิตในช่วงก่อนสิ้นลมหายใจ

อย่างกรณีการเสียชีวิตของเหม ดาราหนุ่มนั้น มีการออกมาบอกว่า การเชิญวิญญาณของดาราหนุ่มตามพิธีสงฆ์ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก "ผ้าผูกคอ" ระหว่างการทำอัตวินิบาตกรรมได้หายไป และเชื่อว่ามีมือมืดเก็บผ้าผูกคอไป ซึ่งอาจจะนำไปปล่อยขายในกลุ่มของคนที่เชื่อเรื่องของไสยศาสตร์ขณะที่คดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของพริตตี้สาวชื่อดัง ก็มีกระแสการแห่ขอซื้อ "โซฟา" ซึ่งเชื่อว่า เป็นจุดที่พริตตี้สาวนอนเสียชีวิต เพราะมีความเชื่อว่า หากได้นอนทับที่คนตายจะมีโชคลาภ และราคาที่มีการเสนอซื้อขายกันในตลาดมืดก็สูงมาก

ความเชื่อที่หลายคนฟังแล้วขนพองสยองเกล้านี้ มีที่มาจากไหน "ล่าความจริง" ได้พูดคุยกับอดีตนักร้องชื่อดัง ซึ่งหลงใหลในไสยศาสตร์ศาสตร์แห่งความลึกลับมานานนับสิบปี จนกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจค้าขายเครื่องรางของขลัง เขาไขข้อข้องใจให้ฟังว่า การทำเครื่องรางต่างๆ มักจะใช้ชิ้นส่วนร่างกาย หรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวของกับการเสียชีวิต มักจะนำมาจากร่างของหญิงสาว ซึ่งตามตำราจะระบุไว้ว่า เป็นหญิงสาวที่เสียชีวิตจากความหึงหวง ผิดหวังในความรัก และความแค้น แต่หญิงสาวผู้นั้น จะต้องไม่มีลูก ไม่มีสามี และไม่เคยผ่านการแต่งงาน จึงจะได้ผลมากที่สุด


จักรพงศ์ การสมพรต เจ้าของกิจการด้านเครื่องรางของขลัง"ถ้าเอาของผู้หญิงจะดีกว่าของผู้ชาย เพราะสามารถควบคุมได้ง่าย มีเสน่ห์ อาถรรพ์ และมีเสน่ห์หลายอย่าง แต่ที่ไม่นิยมนำของผู้ชายมาทำ เพราะดื้อรั้น ควบคุมยาก ส่วนโซฟา ที่มีข่าวนั้น ไม่สามารถใช้ได้จริง อาจเป็นเพราะแค่น้องลัลลาเบลเป็นคนสวย บางคนจึงให้ราคาสูง ส่วนเครื่องรางที่มาจากผู้ชายมีน้อยมาก เช่น ปลัดขิก จะเป็นการตัดเอาอวัยวะเพศของชายที่เจ้าชู้มากๆมาทำเป็นเครื่องราง"

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์


เขายังบอกอีกว่า ประเภทของเครื่องรางของขลังหากแยกย่อยออกมามีจำนวนเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่เครื่องรางเหล่านี้จะใช้ไปในทางสร้างเสน่ห์ให้คนหลงใหล และส่งเสริมด้านการติดต่อค้าขาย เช่น แมลงภู่คำ น้ำมันพราย ผีลูกือนา แผ่นอลูมิเนียมรองศพหากเป็นชิ้นส่วนอวัยวะของศพ ก็จะมักใช้ชิ้นส่วนต่างๆของหญิงสาว เช่น หนังหน้าผาก กะโหลกศีรษะ นำมาทำปั้นเหน่ง ลิ้น ปทุมถัน หรือ เนินหน้าอก หนังหน้าท้องผู้หญิง นิ้วชี้ และหนังจากอวัยวะเพศ
ขณะที่ราคาการซื้อขายก็จะมีแตกต่างกันออกไป แต่ปัจจุบันเครื่องรางต่างๆเหล่านี้ ไม่ได้เป็นที่นิยมของลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้านอีกแล้ว เพราะเขาสามารถหาวัตถุดิบกันได้เอง แต่สิ่งที่ขายดี กลับเป็นคนที่มีวิชาอาคมทำการปลุกเสกเครื่องรางของขลังได้ต่างหากที่กำลังเป็นที่ต้องการ

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์


เรื่องราวเหล่านี้ หลายคนอาจไม่เชื่อ แต่มันเกิดขึ้นจริงในสังคมเรา และมี "ราคา" จากความเชื่อที่ว่าด้วย แต่หากย้อนกลับมามองในมุมพุทธศาสนาเกี่ยวกับความเชื่อต่างๆ นั้น พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า เมื่อใดที่มนุษย์ยังมีความกลัวอยู่ในตัวเอง ก็จะต้องสรรหาสิ่งของมาป้องกันตัวเอง แต่ในทางกลับกันพระพุทธเจ้าท่านทรงสั่งสอนเอาไว้ว่า "เราควรนำสติ สัมปชัญญะ มาใช้เป็นเกราะป้องกันสิ่งไม่ดี มากกว่าใช้ความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้มาปกป้องตัวเอง

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์



"มีคนกลุ่มหนึ่งที่ตามหาสิ่งของเพื่อทำไสยศาสตร์แนวลึกลับ แต่พระพุทธศาสนาสอนให้เกิดความลึกซึ้ง หากคนที่ตายโหงจะมีอะไรวิเศษวิโสที่ช่วยเราได้ ทำไมไม่ไปเอาคนที่ทำเรื่องดีมาทำ อย่างเช่น ทหารที่ช่วยชาติไปตายในแนวรบ แต่กลับไปเอาคนตายที่สิ้นคิดสั้น มาทำของขลัง แล้วจะต่ออายุชีวิตคนที่ใช้ได้อย่างไร ฉะนั้น จึงขอให้สมองเราติดเครื่องกรองเอาไว้ เพื่อไม่ให้เสียค่าโง่ให้กับคนหลอกลวงที่มาหากินกับเรื่องเหล่านี้ ถ้าอยากร่ำรวยก็จงขยันทำมาหากิน อย่าไปเพ้อฝันกับของลมๆแล้งๆ เช่น "ชิม ช็อป ใช้" ยังได้ไม่ทุกคนเลย ฉะนั้น จึงอย่าไปหวังอะไรเลย

ส่วนหนึ่งก็มาจากสภาพเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองทำให้คนต้องหันมาหลอกกันเอง หากรรมหาเวรใส่กันในเรื่องของความเชื่อเรื่องลี้ลับ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ตามวิทยาศาสตร์ หากใครขาขึ้นก็รวยไป ฉะนั้น อย่าไปเชื่ออะไรกันมาก เพราะทุกสิ่งอยู่ภายใต้คำที่ว่า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป"

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์



ตราบใดที่มนุษย์ยังมีความกลัวอยู่ในสมองอยู่ เขาก็จะคิดว่า โดนคุณไสย์ มนต์ดำเล่นงาน เขาจึงต้องหาสิ่งของมาป้องกันตัวเอง แต่พระพุทธเจ้าท่านได้บอกไว้ว่า เราควรนำสติ สัมปะชัญยะ และปัญญามาเป็นตัวป้องกันตนเอง ดีกว่าความเชื่องมงายแน่นอน

"เหม-เบล" ควันหลงการตายกับไสยศาสตร์เชิงพาณิชย์

ความเชื่อกับไสยศาสตร์ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ แน่นอนว่า ทุกสิ่งบนพื้นฐานความเชื่อด้านไสยศาสตร์ มักมีทั้งด้านขาวและดำ ซึ่งทั้งหมดคือการกระทำเพื่อให้ได้มาสู่ผลประโยชน์เฉพาะหน้าที่ต้องการ แต่หากมองในระยะยาว ความเชื่อเหล่านี้ อาจจะไม่สามารถช่วยให้ความทุกข์ที่มีอยู่หลุดพ้นได้...เพราะชีวิตจริงของคนเราก็มีให้เห็นอยู่เป็นอุทาหรณ์


ดนุพล นิวาเวศน์ ถ่ายภาพอนุรักษ์ เพ็ญสวัสดิ์ ทีมล่าความจริง รายงาน

logoline