ภาคอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) 16 จังหวัด ได้แก่ นครพนม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหารชัยภูมิ สุรินทร์ อุดรธานี เลย ศรีสะเกษ และสกลนคร
ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ตราด และสระแก้ว
ภาคใต้ 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ระนอง และชุมพร รวม 184 อำเภอ 836 ตำบล 7,293 หมู่บ้านประชาชนได้รับผลกระทบ 419,988 ครัวเรือน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 26,521 หลัง ผู้เสียชีวิต 38 ราย (ยโสธร 9 ราย ร้อยเอ็ด 6 ราย อุบลราชธานี 6 ราย อำนาจเจริญ 5 ราย ขอนแก่น 3 ราย ศรีสะเกษ 3 ราย พิจิตร 2 ราย พิษณุโลก 1 ราย มุกดาหาร 1 ราย สกลนคร 1 ราย น่าน 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 1 คน (ชัยภูมิ) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด อพยพประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานี 35 จุด 3,687 คน
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมเจ้าหน้าที่วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ภัย โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกเครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงแจกจ่ายอาหารปรุงสุกน้ำดื่ม และถุงยังชีพตามวงรอบอีกทั้งดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยในศูนย์พักพิงชั่วคราว อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่งของและการเดินทางในพื้นน้ำท่วมขัง อีกทั้งให้บริการด้านสาธารณสุขครอบคลุมการดูแลสุขภาพและสภาพจิตใจ
สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้วให้เร่งสำรวจประเมินความต้องการการช่วยเหลือของผู้ประสบภัยพร้อมจัดทำบัญชีความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้านทั้งการประกอบอาชีพชีวิตความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์สาธารณูปโภค เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยเฉพาะด้านที่อยู่อาศัยแยกเป็น เสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วนตลอดจนซ่อมแซมและฟื้นฟูสิ่งสาธารณประโยชน์ให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว