นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงถึงจุดยืนการแบนสารเคมีวัตถุอันตรายทางการเกษตร 3 ชนิด พาราควอต ไกลโฟเซส คอร์ไพริฟอส ว่า ตนจะตอบให้ชัดๆ อีกทีหลังจากที่ได้พูดชัดเจนไปแล้ว วันนี้ ยืนยันได้เลยว่าไม่สนับสนุนการใช้สารพิษในการทำเกษตร ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันนี้ และมีความเห็นตรงกันกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ รองนายกฯรมว.พาณิชย์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยหน่วยงานเป็นที่เป็นคณะกรรมการวัตถุอันตราย พร้อมใจแบนสาร 3 ตัวนี้ทันที ดังนั้นขอเรียกร้องให้ประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย และกรรมการ ประชุมเรื่องการแบนสารพิษโดยเร็วที่สุด พร้อมกับให้ลงมติโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน จะได้รู้ว่าใครเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มิเช่นนั้นไม่ว่ามติจะออกมาอย่างก็จะมาโทษคนของกระทรวงเกษตรฯเป็นแพะรับบาปทุกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะไม่ยอมเป็นแพะ อย่างที่มีการกล่าวหากัน
"ยืนยันผมกับท่านจุรินทร์ ไม่มีผลประโยชน์แม้แต่สลึงเดียว และผมไม่เคยกินน้ำแข็งใครมาเลี้ยงสักแก้วเดียว จึงขอความร่วมมือนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่กล่าวหาว่ามีบริษัทค้าสารเคมีต่างชาติรายใหญ่ มายื่นผลประโยชน์ให้ แลกกับการไม่แบนสาร 3 ตัวนี้ ต้องนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสังคม ว่าไปพบใคร พบทีมงานของใคร เพราะผมได้สอบถามแล้วทั้งทีมงานของท่านจุรินทร์ และของผม ไม่มีใครมาพบ ซึ่งในวันที่ 23 ก.ย.ผมและทีมงาน เดินทางไปแก้ไขปัญหาอุทกภัย จ.อุบลราชธานี เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมภาคอีสาน มีสื่อมวลชนตามไปด้วยก็เห็นว่าผมอยู่ที่นั่น ทั้งนี้ผมพร้อมที่ตั้งกรรมการตรวจสอบ ถ้ามีหลักฐานก็นำมาให้ผมได้ตลอดเวลา" นายเฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า วันนี้ได้พูดคุยกับตัวแทนกระทรวงเกษตรฯ ที่อยู่ในคณะกรรมการวัตถุอันตราย แล้ว ว่ามีนโยบายไม่เอา 3 สารนี้ ซึ่งตนยินดีมากขอเชิญนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ที่ทุกท่านพร้อมแบน 3 สาร ขอให้มาแถลงร่วมกันและตนด้วย จะเป็นแนวทางเดียวกันทั้ง 3 กระทรวงว่าพร้อมจะยกเลิกทันที
นอกจากนี้ขอให้รมว.อุตสาหกรรม สั่งการประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย และ เลขาคณะกรรมการฯ เรียกประชุมโหวตยกเลิกมติครั้งก่อนที่ให้จำกัดการใช้ และการประชุมครั้งต่อไปจะต้องไม่เอา 3 สาร ให้การลงมติโหวตแบบเปิดเผย เพราะถ้าลงมติลับก็ไม่มีความชัดเจน ขอเรียกร้องให้เปิดไปเลย เพราะไม่ต้องการให้ใครยืนข้างหลังคอยสั่งการและจะได้แก้ข้อกล่าวหาในเรื่องคณะกรรมการฯมีผลประโยชน์ ได้ด้วย
"ถ้าคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติยกเลิก 3 สาร ซึ่งการหาสารทดแทนสามารถทำได้ ผมบอก น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ เร่งไปดูแล้ว รวมทั้งการชดเชยช่วยเกษตรกร สิ่งที่ทำได้ทันทีคือลดต้นทุนการผลิต เช่น ปุ๋ยสั่งตัด ท่านนายกรัฐมนตรี มีบัญชามาแล้วให้ช่วยเรื่องเพิ่มรายได้เกษตรกร ซึ่งผมชัดเจนแล้วต้องแบน 3 สาร ดังนั้นการลงมติเปิดเผยให้สังคมรับรู้ จะได้ไม่มีแพะในสังคม" นายเฉลิมชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสนธิ ท้าไปพบที่ศาลจึงจะเปิดข้อมูลบริษัทเอกชนค้าสารเคมีรายใหญ่ ไปพบที่พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 23 ก.ย. รวมทั้งมีผลประโยชน์ 1.5 พันล้านบาทแลกกับการไม่ 3 แบนสารเคมีนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ใครเอาข่าวมา ขอให้เอามาเปิดเผย ไม่ใช่ไปเอาภาพตนมาลงข่าวทำให้เสียหาย และไม่มีการมาพบทีมงานตนหรือหัวหน้าพรรค หากเอกชนมาคุยกับตนจะโดนด่ากลับไปด้วย
ด้านนายจุรินทร์กล่าวถึงกระแสข่าวที่บริษัทเอกชนเจราจาไม่ให้แบน 3 สาร กับคนของพรรคประชาธิปัตย์ จะตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้หรือไม่ว่า เลขาธิการพรรคได้ตอบมาแล้วและท่าทีพรรคไม่เห็นด้วย พร้อมยืนยันแบน 3 สารแน่นอน พรรคได้ยืนยันชัดเจนสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ พร้อมสนับสนุน ในส่วนกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นตัวแทน 1 คนในกรรมการ จะโหวตแบน 3 สาร ส่วนเรื่องการหาสารทดแทน เป็นเรื่องวิญญูชนรู้ดีอยู่แล้วว่าอะไรที่ดีและปลอดภัยกับเกษตรกร ผู้บริโภค
ถามว่าทำไมไม่ตั้งกรรมการสอบคนในพรรคที่มีนายทุนมาใช้พื้นที่พรรคเจรจาหาผลประโยชน์ นายจุรินทร์ กล่าวว่าเลขาฯพรรคตอบไปแล้ว ซึ่งมีสิทธิตั้งกรรมการสอบได้
เมื่อถามว่าส่วนในฐานะหัวหน้าพรรค จะสอบหรือไม่ หรือต้องรอให้มีใบเสร็จก่อน นายจุรินทร์ กล่าวว่า เลขาพรรค ตอบแล้วจะไม่พูดซ้ำซ้อนอีก