svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ดร.สามารถ แนะ จับตาไม่กะพริบ! ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ซีพีจะถูกแบล็กลิสต์

04 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ด็อกเตอร์ สามารถ ราชพลสิทธิ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ - Dr.Samart Ratchapolsitte โดยระบุว่า... ระทึก! ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ซีพีจะถูกแบล็กลิสต์?

ต้องติดตามกันอย่างไม่กะพริบตาว่ากลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม CPH ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบด้วยสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา จะเซ็นสัญญาสัมปทานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นเส้นตายที่ รฟท.ขีดให้หรือไม่
หากกลุ่ม CPH ไม่เซ็นสัญญาตามกำหนดเวลาจะถูกจะยึดหลักประกันซอง 2 พันล้านบาท และอาจจะถูกขึ้นบัญชีดำหรือแบล็กลิสต์ ซึ่งจะมีผลให้บริษัททุกบริษัทในกลุ่ม CPH ไม่สามารถรับงานภาครัฐได้อีกต่อไป ทั้งนี้ กลุ่ม CPH ประกอบด้วยบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด บริษัท ช.การช่างจำกัด (มหาชน) บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัท China Railway Construction Corporation Limited และบริษัท อิตาเลียนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
กลุ่ม CPH ชนะการประมูลด้วยการขอเงินสนับสนุนจากรัฐน้อยที่สุดคือ 117,226.87 ล้านบาท ซึ่งไม่เกินเพดานที่รัฐกำหนดไว้ 119,425.75 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน มีวงเงินทั้งหมด 224,544.36 ล้านบาท รัฐลงทุน 117,226.87 ล้านบาท คิดเป็น 52% นับว่าเป็นสัดส่วนการลงทุนร่วมกับเอกชนที่ต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ที่รัฐต้องร่วมลงทุนถึง 80-85%
จากการที่กลุ่ม CPH ขอให้รัฐร่วมทุนน้อย ทำให้กลุ่ม CPH ต้องลงทุนมาก ส่งผลให้โอกาสที่จะได้กำไรยากมาก เหตุที่กลุ่ม CPH เสนอให้รัฐร่วมลงทุนน้อยคงเป็นเพราะต้องการชนะการประมูล เนื่องจากการประมูลตัดสินด้วยจำนวนเงินที่รัฐต้องร่วมลงทุน หากผู้เข้าประมูลรายใดขอให้รัฐร่วมลงทุนน้อยที่สุดก็จะชนะการประมูล ถามว่ากลุ่ม CPH รู้หรือไม่ว่าจะขาดทุนจากโครงการนี้ ตอบว่ารู้ เมื่อรู้แล้วทำไมยังยื่นข้อเสนอไปอย่างนั้น ตอบได้ว่าอาจเป็นเพราะกลุ่ม CPH คาดหวังว่าข้อเสนอเพิ่มเติมที่กลุ่ม CPH เสนอต่อ รฟท.ในซองประมูลที่ 4 จะได้รับการตอบรับจาก รฟท. ซึ่งจะทำให้โครงการไม่ขาดทุน
ข้อเสนอเพิ่มเติมที่กลุ่ม CPH เสนอต่อ รฟท.มี 12 ข้อ อาทิ (1) ให้รัฐร่วมลงทุนตั้งแต่ปีแรกจากเดิมที่รัฐจะเริ่มลงทุนตั้งแต่ปีที่ 6 (2) ให้รัฐหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (3) ขอจ่ายค่าเช่าที่ดินมักกะสันและศรีราชาในปีที่โครงการพัฒนาที่ดินได้กำไร เป็นต้น แต่ รฟท.ปฏิเสธทั้งหมด เพราะหากรับข้อเสนอเพิ่มเติมจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับคู่แข่งขัน
เมื่อข้อเสนอเพิ่มเติมถูกปฏิเสธจาก รฟท. ในขณะที่ถูกขีดเส้นตายให้เซ็นสัญญาภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2562 กลุ่ม CPH จะทำอย่างไร หากเดินหน้าเซ็นสัญญาก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะขาดทุน แต่หากไม่เซ็นอาจถูกแบล็กลิสต์ ไม่สามารถรับงานรัฐได้อีกต่อไป ที่สำคัญ จะทำให้เสียชื่อเสียง
ถึงเวลานี้ กลุ่ม CPH ซึ่งประกอบด้วยบริษัทชั้นนำหลายบริษัทคงต้องเลือกที่จะรักษาชื่อเสียงของตนไว้ ไม่ยอมให้ถูกแบล็กลิสต์แน่ ด้วยเหตุนี้ กลุ่ม CPH คงมีทางเลือก 2 ทาง ดังนี้
1. กรณี รฟท.ใช้มาตรการแบล็กลิสต์จริงกลุ่ม CPH จะเซ็นสัญญา โดยยื่นเงื่อนไขให้ รฟท.ส่งมอบพื้นที่การก่อสร้างตามกำหนดเวลาและแผนการก่อสร้างของตน หาก รฟท.ไม่สามารถส่งมอบได้ อาจนำไปสู่การบอกเลิกสัญญาโดยกลุ่ม CPH ในภายหลัง เนื่องจากโครงการมีความเสี่ยง
2. กรณี รฟท.ไม่ใช้มาตรการแบล็กลิสต์กลุ่ม CPH คงไม่เซ็นสัญญา โดยยอมให้ รฟท.ยึดหลักประกันซอง 2,000 ล้านบาท และอาจจะอ้างว่า รฟท.ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ตามกำหนดเวลาและแผนการก่อสร้างของตนได้ ทำให้โครงการมีความเสี่ยง ส่งผลให้หาแหล่งเงินกู้ไม่ได้
ทั้งหมดนี้ ด้วยความหวังดี อยากให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี เปรียบได้กับกระดูกสันหลังของอีอีซีเป็นรูปธรรมโดยเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม รฟท.จะต้องระมัดระวังอย่างมากไม่ให้เกิดค่าโง่ดังเช่นโครงการโฮปเวลล์ขึ้นมาอีก

logoline