นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการเบิกจ่ายสะสมของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง แบ่งเป็นรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณ 11 เดือน (ต.ค. 61 ส.ค. 62) จำนวน 34 แห่ง เบิกจ่ายจริงสะสม 89,315 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของแผนการเบิกจ่ายสะสม และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทิน 8 เดือน (ม.ค. 62 ส.ค. 62) จำนวน 11 แห่ง เบิกจ่ายจริงสะสม 80,568 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 98 ของแผนการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม
สำหรับการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง ณ เดือนสิงหาคม 2562 มีโครงการขนาดใหญ่ที่สามารถเบิกจ่ายเป็นไปตามแผน ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม - มีนบุรี ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โครงการลงทุนโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง และงานก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบประปาของการประปาส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ มีโครงการขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามแผน ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร นครราชสีมา) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่ง สคร. ได้ติดตามโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐวิสาหกิจที่เบิกจ่ายงบลงทุนล่าช้าเพื่อแก้ไขปัญหาการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ล่าช้า รวมทั้งได้ประสานงานกับรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินที่มีแผนการเบิกจ่ายสูงให้สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สคร. กล่าวสรุปว่า สคร. ได้ทำงานเชิกรุกในการผลักดันการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2562 ที่จะสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงผลักดันให้รัฐวิสาหกิจที่มีศักยภาพพิจารณาเร่งการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมให้สามารถดำเนินโครงการได้เร็วขึ้น เพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ชาติอีกด้วย