svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค

04 ตุลาคม 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อยากฉลาดให้กินปลา อยากปกป้องหลอดเลือดและหัวใจ ลดไขมันในเลือดต้องกินน้ำมันปลา" ประโยคบอกเล่าเชิงแนะนำที่หลายๆ คนคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง แต่อาจไม่ได้ให้ความสนใจกันสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่าอาหารเสริมก็คืออาหารเสริม ไม่สำคัญเท่าอาหารมื้อหลักหรอก เราเองก็เคยเป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านั้น จนกระทั่งถึงวันที่อาหารเสริมไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป


เท้าความสักนิด เราตัดสินใจไปพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา ตรวจสุขภาพ เช็คระดับไขมันในเลือดร่วมด้วย หลังจากที่เราเริ่มรู้สึกว่าร่างกายแปลกๆ ไป หัวไม่แล่น เฉื่อยชา อ่อนเพลียง่าย ปวด มึนศีรษะบ่อยครั้ง หมอวินิจฉัยว่าสาเหตุมาจากพฤติกรรม "คนวัยทำงาน" อย่างเรานี่แหละ ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย แถมยังกินตามใจปากโดยเฉพาะของกินที่มีไขมันสูง ส่งผลให้ระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูง ไขมันโคเลสเตอรอลพุ่งสูง จนความดันโลหิตสูงผิดปกติ เข้าข่ายเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง สุ่มเสี่ยงที่จะพัฒนาสู่การเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดแดงอุดตัน โรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
หมอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่เพื่อตัดวงจรไขมันตัวร้าย (ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ และไขมันโคเลสเตอรอล) คุมอาหาร งดอาหารทอดๆ ที่มีไขมันสูง จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้งๆ ละไม่ต่ำกว่า 30 นาที เพื่อให้ร่างกายสร้างไขมันดีทดแทน และเพิ่มการกินอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็นอย่าง โอเมก้า-3 เข้ามาเพื่อช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดให้เป็นปกติ
ล่าสุดไปตรวจระดับไขมันในเลือดผลตรวจ คือ ระดับไขมันในเลือดกลับมาปกติ แถมระดับของไขมันดีเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก ต้องชมตัวเองที่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองแบบจริงจัง หันไปทานผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น งดอาหารที่มีไขมันสูง จำกัดการดื่ม เข้าฟิตเนสออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีวินัยพอสมควรถึงจะทำได้
แต่ที่ทำได้ง่ายและทำได้ทันทีเลยสำหรับเรา ก็คือ การเพิ่มกรดไขมันโอเมก้า-3 เข้าสู่ร่างกายผ่านการกินน้ำมันปลาในรูปของอาหารเสริม วันนี้เราขอหยิบยก "น้ำมันปลา" ที่มาของกรดไขมันโอเมก้า-3 จาก 5 ยี่ห้อ ที่เราเคยกิน มาให้ทุกคนได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือกน้ำมันปลากัน
--------------------------------------------------------------------------------
ความลับของน้ำมันปลา
--------------------------------------------------------------------------------
น้ำมันปลา (Fish Oil) คือ น้ำมันที่ได้จากกระบวนการสกัดเอาน้ำมันมาจากส่วนต่างๆ ของปลา เช่น เนื้อ หนัง หัว และหาง จากปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว ซึ่งปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 สูงๆ จะพบได้ในปลาแองโชวี่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


น้ำมันปลาที่สกัดได้ออกมาจะมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ชื่อว่าโอเมก้า-3 ซึ่งในกรดไขมันชนิดนี้ จะประกอบด้วยกรดไขมันดี สองชนิด คือ กรดไขมันอีพีเอ (EPA, Eicosapentaenoic Acid) และกรดไขมันดีเอชเอ (DHA , Docosahexaenoic Acid) ที่ช่วยบำรุงสมอง เซลล์สมอง ระบบประสาท บำรุงดวงตา ช่วยต้านการอักเสบของร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ ลดความเสี่ยงภาวะหลอดเลือดตีบ อุดตันจากไขมัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดหัวใจและสมอง
ความลับของกรดไขมันโอเมก้า-3 กับเรื่องของระดับไขมันในเลือดถูกค้นพบจากนักวิจัยเขาไปทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับภาวะไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดและการช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันของน้ำมันปลา ที่รวบรวมผลการวิจัยมาตั้งแต่ปี 1990-2006 พบว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลามีประสิทธิภาพในการช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ประมาณ 20%-50% เทียบเท่ากับยาลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ ดังนั้นน้ำมันปลาจึงมีส่วนช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันจากการมีไขมันในเลือดสูงได้

--------------------------------------------------------------------------------
Check list น้ำมันปลา...ซื้อเลือกแบบไหนให้ได้ประโยชน์
--------------------------------------------------------------------------------
ในฐานะมือใหม่หัดกินน้ำมันปลาอย่างเรา ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อ ไล่หาข้อมูล ถามจากหลายๆ คนที่เคยกิน ดูรีวิวจากหลายๆ แหล่ง จนสร้าง check list ในการเลือกซื้อน้ำมันปลาแบบของเราเองขึ้นมา ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเลือกน้ำมันปลาอย่างไร ก็ลองเอา Check list ของเราไปใช้กัน



1.ปริมาณกรดไขมันใน 1 แคปซูล
จากคำแนะนำที่ให้กินกรดไขมันโอเมก้า-3 วันละ 1,000 มิลลิกรัม ต้องเข้าใจกันก่อนว่า หมายถึง ปริมาณรวมของกรดไขมันอีพีเอ (EPA, Eicosapentaenoic Acid) และ กรดไขมันดีเอชเอ (DHA , Docosahexaenoic Acid) ไม่ใช่ปริมาณของน้ำมันปลาใน 1 แคปซูล จากประสบการณ์ที่ลองผิดลองถูกมาหลายยี่ห้อ เราพบว่า ข้างฉลากระบุสารสำคัญในน้ำมันปลา 1 แคปซูล ให้ปริมาณน้ำมันปลาเท่ากัน ที่ 1,000 มิลลิกรัม แต่ปริมาณของกรดไขมันอีพีเอ และกรดไขมันดีเอชเอ แต่ละยี่ห้อให้ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นก่อนจะซื้อก็ลองเทียบปริมาณกรดไขมันที่ให้มาก่อน จะได้ไม่เสียใจที่ซื้อน้ำมันปลากินแต่ได้ประโยชน์ไม่เต็มที่
2.แหล่งที่มาของวัตถุดิบ
กรดไขมันโอเมก้า-3 สูง ไม่ได้มีแค่ปลาแซลมอน จริงๆ แล้วมีปลาอีกหลายสายพันธุ์ที่ให้กรดไขมันโอเมก้า-3 สูงไม่แพ้กัน เช่น ปลาแองโชวี่ ปลาทูน่า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลาทะเลน้ำลึกเขตหนาว และนอกจากสายพันธุ์ของปลาแล้ว ปลาที่นำมาผลิตควรเป็นปลาที่ได้จากแหล่งธรรมชาติ ไม่ใช่ปลาในระบบเลี้ยงเพราะเสี่ยงที่จะพบการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ ได้ง่ายกว่า

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


3.มาตรฐานความปลอดภัย
ผ่านการตรวจสอบสารปนเปื้อนและโลหะหนักอะไรบ้าง ถ้าระบุไว้ก็สบายใจได้มากขึ้น กระบวนการผลิตได้มาตรฐานแค่ไหน ส่วนใหญ่สินค้าที่เราต้องกินเข้าสู่ร่างกายมักจะระบุว่าเป็น มาตรฐานการผลิตอาหาร หรือถ้าจะให้สบายใจสุดๆ ก็คือ มาตรฐานการผลิตยา ที่จัดว่าต้องปลอดภัยต่อร่างกายจริงๆ ถึงจะผ่านมาตฐานยานี้ได้ และถึงจะได้มาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ก็ต้องอย่าลืมดูด้วยว่าใครให้การรับรองมาตรฐานความปลอดภัยนี้ เป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่ทั่วโลกยอมรับได้ยิ่งปลอดภัย4.บรรจุภัณฑ์
ถ้าอ่านฉลากน้ำมันปลาจะมีข้อความหนึ่งว่า "ควรเก็บไว้ไม่ให้โดนแสง" เพราะน้ำมันปลามีความไวต่อแสงค่อนข้างสูง รวมถึงความชื้นและอากาศด้วย บรรจุภัณฑ์เลยกลายเป็น check list อันดับต้นๆ ของเราไปโดยปริยาย ซึ่งน้ำมันปลาบ้านเรา มีทั้งขวดแก้ว(ขวดสีชา) และขวดพลาสติกจริงอยู่ว่าขวดแก้วสีชา ช่วยกรองแสงที่จะผ่านเข้าไปในขวดได้ ถึงแม้จะกรองแสงได้แต่ก็จะมีแสงบางส่วนที่ผ่านเข้าไปได้อยู่ดี ส่วนขวดพลาสติก จะมีทั้งแบบทึบ(เกรดเดียวกับที่ใช้บรรจุยา) และแบบใสที่เป็นสีสันต่างๆ สำหรับพลาสติกแบบทึบที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ใส่ยาหรือใช้ทางการแพทย์ จะมีคุณสมบัติทนความร้อน กันแสงได้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้คุณภาพยาเสื่อม ส่วนขวดพลาสติกแบบสี เราไม่แนะนำเท่าไหร่ เพราะไม่สามารถป้องกันแสงหรือทนความร้อนได้ น้ำมันปลาจะเสื่อมคุณภาพไว

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


เห็น check list การเลือกน้ำมันปลาของเราไปแล้ว ทีนี้ลองมาดูน้ำมันปลา 5 ยี่ห้อดัง ซึ่งเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่คนต้องการกินน้ำมันปลาจะเลือกซื้อกันดีกว่าว่ามียี่ห้ออะไรบ้าง เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ในฐานะที่ตัวเราเป็นผู้บริโภคคนหนึ่งที่ได้ลองทานน้ำมันปลาทั้ง 5 ยี่ห้อดังกล่าวมาหมดแล้ว เราจึงจะมารีวิวเปรียบเทียบน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อให้ดูกันแบบละเอียดไปเลย ว่าน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
--------------------------------------------------------------------------------


1. MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg
ข้อมูลจากบนเว็บไซต์ระบุว่า ใช้ปลาแองโชวี่ที่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างทะเลน้ำลึกของประเทศไอซ์แลนด์ ซึ่งปลอดภัยเรื่องสารปนเปื้อน สารปรอท สารตะกั่ว หรือสารตกค้างจากการเลี้ยง ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง พร้อมอาหาร
หากอยากรู้จัก Mega We care Fish oil มากขึ้น เข้าไปได้ที่
Facebook: www.facebook.com/MEGAWecare,Website: www.megawecare.co.th

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล
1. น้ำมันปลา 1,000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
2. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 180 มิลลิกรัม
3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 120 มิลลิกรัม
4. วิตามิน อี 1.4 มิลลิกรัม

ผลิตโดย :บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน)

มาตรฐานการผลิต
1. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา เครื่องสำอาง รวมถึงอาหาร สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ ปราศจากความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
2. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต TGA จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา วิตามิน สมุนไพร และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
3. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต BfArM จากประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นตัวแทนสหภาพยุโรป หรือ EU ถือเป็นมาตรฐานที่สูงที่สุดในโลก เรื่องการควบคุม ยา สมุนไพร วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
4. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต Halal จากประเทศไทย ซึ่งเป็นมาตรฐานอาหารเสริมหรือยาซึ่งอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้มุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์

บรรจุภัณฑ์
1. พลาสติกทึบแสง(เกรดใช้ในทางการแพทย์)
2. บรรจุ 100 แคปซูล
3. ราคา 300- 350 บาท เฉลี่ยราคา 3.25 บาท/แคปซูล

รูปแบบของยา
1. แคปซูลเจลนิ่ม
2. แทบไม่มีกลิ่นคาว ต้องดมใกล้มากๆ ถึงจะได้กลิ่นอ่อนๆ
--------------------------------------------------------------------------------

2. BLACKMORES FISH OIL1000 mg
ยี่ห้อที่สอง BLACKMORES FISH OIL1000 เป็นน้ำมันปลาที่ได้จากปลาทะเล ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 1-3 ครั้ง พร้อมอาหาร
Facebook: www.facebook.com/BlackmoresThailand,Website: www.blackmores.co.th/

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล
1. น้ำมันปลา 1,000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
2. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 180 มิลลิกรัม
3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 120 มิลลิกรัม
4. วิตามิน อี ธรรมชาติ 10 ไอ.ยู.

ผลิตโดย :บริษัท แบลคมอร์ส จำกัด ประเทศออสเตรเลีย

มาตรฐานการผลิต
1. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต PIC/s จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา มีคุณภาพ เป็นมาตรฐาน EU GMP ที่ใช้กันเป็นกฎหมายในทวีปยุโรป
2. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา เครื่องสำอาง รวมถึงอาหาร สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ ปราศจากความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

บรรจุภัณฑ์
1. แก้วทึบแสง (ขวดสีชา)
2. บรรจุ 80 แคปซูล
3. ราคา 340-399 บาท เฉลี่ยราคา 4.61 บาท/แคปซูล

รูปแบบของยา
1. แคปซูลเจลนิ่ม
2. มีกลิ่นคาวอ่อนๆ ไม่แรงมาก ต้องดมใกล้ๆ ถึงจะได้กลิ่น
--------------------------------------------------------------------------------

3. NATURES BOUNTY SALMON OIL 1000 mg

ยี่ห้อถัดมา Natures Bounty เป็นน้ำมันปลาแซลมอน อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ขนาดรับประทาน ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง พร้อมอาหาร
Facebook: www.facebook.com/NaturesBounty,Website: www.naturesbounty.com/

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล
1. น้ำมันปลา 1,000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
2. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 75 มิลลิกรัม
3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 90 มิลลิกรัม
4. กรดไขมันอิ่มตัว 45 มิลลิกรัม

ผลิตโดย :บริษัท เนเจอร์เบาวน์ตี้ นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา

มาตรฐานการผลิต
ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา เครื่องสำอาง รวมถึงอาหาร สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ ปราศจากความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค

บรรจุภัณฑ์
1. พลาสติกใส
2. บรรจุ 120 แคปซูล
3. ราคา 800 บาท เฉลี่ยราคา 6.60 บาท/แคปซูล

รูปแบบของยา
1. แคปซูลเจลนิ่ม
2. กลิ่นคาวค่อนข้างแรง ไม่ต้องหยิบมาดมใกล้ๆ ก็ได้กลิ่น
--------------------------------------------------------------------------------
4. VISTA SALMON FISH OIL 1000 mg
ยี่ห้อถัดมา VISTA เป็นน้ำมันปลาแซลมอนผสมวิตามินอี มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล พร้อมอาหาร
Facebook : www.facebook.com/VistraClub,Website : www.vistra.co.th

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล
1. น้ำมันปลาแซลมอน 1,000 มิลลิกรัม ประกอบด้วย
2. กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 350 มิลลิกรัม
3. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 180 มิลลิกรัม
4. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 120 มิลลิกรัม
5. วิตามิน อี อะซิเทต 9.09 มิลลิกรัม


ผลิตโดย :บริษัทโปรโนวา แลบบอราทอรีส์ จำกัด
มาตรฐานการผลิต
1. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต HACCP ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา เครื่องสำอาง รวมถึงอาหารสะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ ปราศจาความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
2. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตยา เครื่องสำอาง รวมถึงอาหารสะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพ ปราศจากความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อผู้บริโภค
3. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต DMSc ซึ่งเป็นมาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์
4. ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต Halal ซึ่งเป็นมาตรฐานอาหารเสริมหรือยาซึ่งอนุมัติตามบัญญัติศาสนาอิสลามให้มุสลิมบริโภคหรือใช้ประโยชน์

บรรจุภัณฑ์
1. แก้วทึบแสง
2. บรรจุ 100 แคปซูล
3.ราคา 365 บาท เฉลี่ยราคา 3.6 บาท/แคปซูล

รูปแบบของยา
1. แคปซูลเจลนิ่ม
2.กลิ่นคาวค่อนข้างแรง ไม่ต้องหยิบมาดมใกล้ๆ ก็ได้กลิ่น
--------------------------------------------------------------------------------
5. MAXXLIFE FISH OIL
ยี่ห้อสุดท้าย MAXXLIFE FISH OIL เป็นน้ำมันปลาผสมวิตามินอี มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ขนาดรับประทาน ครั้งละ 1 แคปซูล

รีวิวน้ำมันปลา โอเมก้า-3 ที่เราตามหา เรื่องอยากเล่าจากใจผู้บริโภค


ส่วนประกอบที่สำคัญใน 1 แคปซูล
1. น้ำมันปลา 1,000 มิลลิกรัม ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
2. กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (EPA) 180 มิลลิกรัม
3. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) 120 มิลลิกรัม
4. กรดไขมันอิ่มตัว 300 มิลลิกรัม
5. มิกซ์โทโคฟีรอล 5 มิลลิกรัม

ผลิตโดย :บริษัท 8 เศรษฐี จำกัด

มาตรฐานการผลิต
ไม่พบข้อมูลเว็บไซต์บริษัทและผลิตภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์
1. พลาสติกใส
2. บรรจุ 90 แคปซูล (Promotion 90 แคปซูล แถมฟรี 30 แคปซูล)
3. ราคา 430-450 บาท เฉลี่ยราคา 3.50 บาท/แคปซูล

รูปแบบของยา
1. แคปซูลเจลนิ่ม
2.กลิ่นคาวค่อนข้างแรง ไม่ต้องหยิบมาดมใกล้ๆ ก็ได้กลิ่น
--------------------------------------------------------------------------------
สรุปผลจากน้ำมันปลา 5 ยี่ห้อดัง
--------------------------------------------------------------------------------
1.ปริมาณสารสำคัญใน 1 แคปซูล
น้ำมันปลา MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg น้ำมันปลา BLACKMORES FISH OIL 1000 น้ำมันปลา VISTA SALMON FISH OIL 1000 mg และ น้ำมันปลา MAXXLIFE FISH OIL ให้ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 รวมของกรดไขมันอีพีเอ และ กรดไขมันดีเอชเอ 300 มิลลิกรัม/แคปซูล

2.มาตรฐานการผลิต
1. น้ำมันปลา MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg ผลิตในเมืองไทย แต่ได้รับมาตรฐานการผลิตแบบเดียวกับยา และได้รับ GMP จากประเทศเยอรมันนีและประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ทำให้สามารถวางขายได้ทั่วโลก
2. น้ำมันปลา BLACKMORES FISH OIL 1000 ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศออสเตรเลีย
3. น้ำมันปลา NATURES BOUNTY SALMON OIL 1000 mg ระบุว่าผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศสหรัฐอเมริกา
4. น้ำมันปลา VISTA SALMON FISH OIL 1000 mg ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต GMP ไม่ระบุประเทศ
5. น้ำมันปลา MAXXLIFE FISH OIL ไม่พบข้อมูลเว็บไซต์บริษัทและผลิตภัณฑ์

3.บรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันแสง มีเพียง MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg ที่บรรจุในขวดพลาสติกทึบแสงเกรดใช้ทางการแพทย์ ส่วน BLACKMORES FISH OIL 1000 ใช้ขวดแก้วสีชา นอกนั้นจะเป็นขวดพลาสติกแบบมีสี ซึ่งประสิทธิภาพการป้องกันแสงลดหลั่นลงมา

4.แหล่งที่มาของวัตถุดิบ
มีเพียง MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg ระบุแหล่งวัตถุดิบ นอกนั้นไม่พบข้อมูลระบุแหล่งวัตถุดิบ

5.ลักษณะแคปชูล กลิ่น ราคา
ทั้ง 5 ยี่ห้อ ตัวน้ำมันปลาเป็นแบบแคปซูลเจลนิ่ม ส่วนเรื่องกลิ่น มีเพียง MEGA WE CARE FISH OIL 1000 mg. และ BLACKMORES FISH OIL1000 ที่กลิ่นคาวน้อยมาก
--------------------------------------------------------------------------------
ครบเรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับน้ำมันปลา 5 ยี่ห้อ ที่เราได้นำมาเปรียบเทียบข้อมูลผลิตภัณฑ์ในส่วนต่างๆ ให้ทุกคนได้ดูกัน แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวจะเป็นน้ำมันปลาเหมือนกันหมด แต่ถ้าเปรียบเทียบลึกลงไปอีกหน่อยจะเห็นว่ามีข้อต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 ในแคปซูล แหล่งที่มาวัตถุดิบ มาตรฐานการผลิต บรรจุภัณฑ์ ตลอดจนกลิ่นและราคา
สำคัญและขอย้ำอีกครั้งว่า การเลือกน้ำมันปลาที่กินแล้วให้ประโยชน์ ปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและโลหะหนักที่จะไปสะสมในร่างกาย ต้องดูในหลายๆ ส่วน ทั้งแหล่งวัตถุดิบ มาตรฐานการผลิตที่ควรได้รับการรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานหรือองค์กรที่เป็นที่ยอมรับ รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุ เพราะมันสะท้อนได้ถึงคุณภาพ ความปลอดภัยที่ผู้ผลิตเขาส่งมอบมาถึงมือเรา
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลที่เรานำมาเปรียบเทียบให้ทุกคนได้ดูกัน วันนี้จะมีส่วนช่วยให้ทุกคนตัดสินใจเลือกซื้อน้ำมันปลาเพื่อการบริโภคได้ง่ายยิ่งขึ้น
(พื้นที่โฆษณา)

logoline