องค์กรต่อต้านค้ามนุษย์ชี้พิรุธ "อัยการ" คดีวิคตอเรีย

ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ รณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ เปิดเผยหลังทราบความเห็นอัยการสั่งไม่ฟ้องและขอดีเอสไอถอนหมายจับผู้ต้องหาคนสำคัญที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีว่า คดีค้ามนุษย์สถานอาบอบนวด "วิคตอเรียซีเครท" พนักงานอัยการได้กลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายสำคัญ คือ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ ภรรยา นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ หรือโจอี้ บุตรชายของนายกำพล หลังจากศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้องจำเลยทุกคนในข้อหาค้ามนุษย์ 


ต่อมาผู้ต้องหาได้ร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ถอนหมายจับ และไม่ต้องยื่นอุทธรณ์ จนนำมาสู่การกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องของอัยการ และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ คดีจึงถึงที่สุดตามขั้นตอนของกฎหมาย เเต่อัยการยังคงส่งฟ้องนายกำพล และให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ติดตามตัวนายกำพลมาดำเนินคดีภายในอายุความ 20 ปี ตนจึงมีข้อสงสัยอยู่ 2-3 ประเด็นในกระบวนการกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องคือ 1.อัยการใช้พยานหลักฐานใดมานำสืบว่าผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิด 2.พยานหลักฐานสมเหตุสมผลหรือไม่ และ 3.เหตุใดดีเอสไอ จึงเห็นแย้งกับความเห็นของตัวเองในครั้งนั้น 

เมื่อวันพุธที่ 25 ก.ย.เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์รวม 13 เครือข่าย เดินทางเข้ายื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล โดยมี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัชดา ธนาดิเรก เป็นผู้รับเรื่องประสานงานต่อไปยัง 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1.สำนักนายกรัฐมนตรี 2.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 3.สำนักงานอัยการสูงสุด และ 4.กระทรวงยุติธรรม โดยมีข้อเรียกร้องขอให้ตรวจสอบการดำเนินคดีของอธิบดีอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์และอธิบดีดีเอสไอ ใช้ดุลพินิจในการตรวจสอบอย่างถูกต้องและโปร่งใสหรือไม่ และการกลับความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ผ่านการพิจารณาขององค์คณะทำงานหรือไม่ หรือเป็นดุลพินิจของบุคคลเพียงคนเดียว