"บิ๊กอู๊ด" แถลงจับคดีโชว์ห่วยในรอบสัปดาห์

วันนี้ (27 ก.ย. 62) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงข่าวผลการจับกุมคดีอาชญากรรมที่น่าสนใจในรอบสัปดาห์ 5 คดี โดยคดีแรกเป็นผลการจับกุมของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต นำโดย พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง ผกก.ตม.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร รองผกก.ตม.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ ตม.ภูเก็ต เข้าจับกุม นางสาวจูเลีย (ขอสงวนนามสกุลและอายุ) MS.Julia สัญชาติรัสเซีย หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักร โดยการเปลี่ยนชื่อจากเดิมชื่อ MS.Yulia ซึ่งหญิงสาวชาวรัสเซีย รายนี้ถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหา เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อปี พ.ศ.2555 และถูกทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขึ้นบัญชีดำ ห้ามเข้าประเทศ ทั้งนี้ หลังจับกุมทราบว่ามีการเปลี่ยนชื่อของตน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ส.ค.62 ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (NON-90) อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 21 พ.ย. 62 โดย MS.Juliia นำตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.ป่าตอง
คดีที่ 2 จับกุม นายอาลี (ขอสงวนนามสกุลและอายุ) MR.Ali สัญชาติอิรัก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ หลังอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay 1,272 วัน) เมื่อปี พ.ศ.2561 โดยนายอาลี ได้เข้ามาทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 62 และได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (TR 60) อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 11 พ.ย. 62 โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 62 ตม.จว.ภูเก็ต ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่บริเวณร้านตัดผมในซอยแสนสบาย ถ.ราษฎร์อุทิศ 200 ปี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จึงทำการจับกุม ตรวจสอบพบว่ามีการเปลี่ยนชื่อเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.ภูเก็ต จึงได้ทำการเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร ของชาวต่างชาติจำนวน 2 ราย จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวและดำเนินการส่งกลับออกนอกประเทศต่อไป

คดีที่ 3 จับกุมตัว นายมัคซิม (ขอสงวนนามสกุล) Mr.Maksim อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล 258/2562 ลงวันที่ 16 ก.ย.62 ในฐานความผิด "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" หลังก่อเหตุลักทรัพย์นาฬิกาที่จัดแสดงโชว์ภายในห้าง เซนทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต ไป จำนวน 1 เรือน และหลบหนีไปเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งสืบทราบว่ามากบดานในซอยนาเสือ ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เบื้องต้นให้การรับสารภาพ โดยได้เขียนให้การเป็นภาษาอังกฤษ มีใจความว่า "Russian Rules กล่าวไว้ว่า ถ้าพบสิ่งของที่ไม่ติดราคา และไม่ได้ปิดล็อคไว้ คนรัสเซีย สามารถหยิบไปได้เลย เนื่องจากหมายความถึงว่าของสิ่งนั้นแจกฟรี หรือเป็นของไม่มีเจ้าของ" จากนั้นได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิชิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 เป็นผลงานจับกุมของ กก.สส.บก.ตม.6 ร่วมกับ ตม.จว.ปัตตานี จับกุม นายพาเวส Mr.Parves สัญชาติ บังคลาเทศ หลังกระทำความผิด "เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยทำงานลักลอบทำงานคัดแยกสินค้ามือสองจากประเทศญี่ปุ่น นำมาจำหน่ายในจังหวัดปัตตานี โดยสั่งสินค้ามือสองนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยผ่านนายหน้าชาวบังคลาเทศเพื่อกระจายสินค้ามาพักรอที่ จ.ปัตตานี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้คัดแยกสินค้าและนำมาจำหน่ายหน้าร้านต่อไป สถานที่จับกุม โกดังสินค้ามือสองเลขที่ 37/1 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองปัตตานี

คดีที่ 5 กก.สส.บก.ตม.6 บูรณาการร่วมกับ ตม.จว.สงขลา จับกุม2. นายยาดีฟ MR.YADAV และนายอานิล หลังทั้งสองรายมีประวัติบุคคลต้องห้ามในระบบ Biometrics เหตุมาจากโอเวอร์สเตย์ โดยจับได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 10/1 หมู่ที่ 9 ถ.ปลักหว้า 3 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาซึ่งจากนี้ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และดำเนินการส่งตัวคนต่างด้าว สัญชาติอินเดียทั้ง 2 ราย ต่อไป
คดีที่ 6 เป็นผลการจับกุมของกก.สส.บก.ตม.5 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่คณะทำงานปราบปรามการละเมิดเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) เข้าตรวจสอบร้านลูกน้ำคาราโอเกะ ร้านเมย์&มิ้นคาราโอเกะ ซึ่งตั้งในพื้นที่สันกำแพง หลังได้รับการร้องเรียน มีสถานประกอบกิจการร้านคาราโอเกะ ที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิด มีเด็กสาวนั่งดริ๊งค์อายุไม่เกิน 18 ปี คอยนั่งให้บริการแก่ลูกค้า แต่งตัวยั่วยวนทางเพศ ซึ่งลูกค้าสามารถแตะเนื้อต้องตัวเด็กสาวดังกล่าวได้ เบื้องต้นได้ช่วยเหลือเด็กสาวได้ 4 คน และแจ้งข้อหาเจ้าของร้านในฐานความผิด "ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในทางเพศในรูปแบบให้บริการทางอนาจาร กระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าแต่ยังไม่ถึงสิบแปดปี ชักจูง ส่งเสริม ยินยอมให้เด็ก ประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด อันมีลักษณะเป็นการลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทน หรือเพื่อการใด และเป็นนายจ้างรับผู้ที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์เข้าทำงานในสถานบริการโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย"