เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น. ที่สถานีบ้านปิน จังหวัดแพร่ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรม Station Y ที่สถานีบ้านปินกับคอนเซ็ปประตูสู่เมืองศิลปะ ย้อนยุคอินดี้ โดยมีนายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้ากองจัดการเดินรถ เขต 3 และนายสถานีบ้านปิน ตลอดจนคณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟ น้องนักเรียนโรงเรียนบ้านปิน ปิ่นประชาราษฎร์ โรงเรียนบ้านตากล้า และโรงเรียนบ้านบ่อ เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้กว่า 250 คน
นายฐากูร อินทรชม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม Station Y มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สถานีรถไฟเป็นศูนย์กลางและแหล่งการเรียนรู้ทางด้านสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชุมชน รวมถึงบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละท้องถิ่นควบคู่กันกับประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวภายในจังหวัด โดยเบื้องต้นการรถไฟฯ ได้วางแผนเริ่มดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์สถานีรถไฟต้นแบบจำนวน 4 สถานี ได้แก่ สถานีบ้านปิน สถานีชุมพร สถานีบุรีรัมย์ และสถานีลพบุรีสำหรับรูปแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ ได้มีการออกแบบป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ จุดถ่ายรูปเช็คอิน ให้มีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมของแต่ละท้องถิ่น โดยนำเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญมาประชาสัมพันธ์แสดงความเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ อาทิ การจัดทำป้ายแนะนำการท่องเที่ยวของจังหวัด ป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับการโดยสารรถไฟ ข้อควรระวัง ประวัติของสถานี ตลอดจนมีการยกระดับสถานีรถไฟให้มีความสะอาด สวยงามอยู่เสมอๆ
ส่วนการจัดกิจกรรม Station Y ที่สถานีบ้านปิน ได้มีการเปิดโอกาสให้คณะผู้บริหาร พนักงานการรถไฟฯ น้องๆนักเรียนโรงเรียนบ้านปิน ปิ่นประชาราษฎร์ โรงเรียนบ้านตากล้า โรงเรียนบ้านบ่อ และประชาชนในพื้นที่กว่า 250 คน ได้ร่วมกันปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสถานี พร้อมทั้งร่วมกันระบายสีตกแต่งรูปปูนปั้นซึ่งแสดงความเป็นอัตลักษณ์สำคัญของชุมชนกับสถานีรถไฟ ตลอดจนมีการรับประทานอาหารกลางวันเพื่อสร้างสัมพันธ์ร่วมกันกับชุมชน
นายฐากูรกล่าวว่า เป้าหมายของการดำเนินกิจกรรม Station Yเพื่อต้องการพัฒนาสถานีรถไฟให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น รวมถึงเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ และใช้สถานีรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นในการบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของชุมชน รวมถึงข้อมูลเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ตลอดจนให้สถานีรถไฟเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเยี่ยมเยียน เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนเปิดโอกาสสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนและละแวกใกล้เคียงของสถานีรถไฟ
.
.