รองโฆษก ตร. ชี้! "ดิว เดอะสตาร์ 9" แอบถ่ายหนังในโรงลงโซเชียลเข้าข่ายผิดกฎหมาย

จากกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล เมื่อเพจอวยไส้แตกแหกไส้ฉีก นำกระทู้พันทิป สมาชิกหมายเลข 3513503 ชื่อ "วันนี้เห็นดาราอัพ IG story เป็นหนังในโรง ยาวมาก นี่เขาคิดไรอยู่??" พร้อมตั้งคำถามว่า "ตามนี้เลยครับ ไม่รู้หรือว่ามารยาททางสังคมเขาห้ามใช้มือถือขณะอยู่ในโรงหนัง หรือถ้าเหมาโรงจริง อัพภาพแบบนี้ทางกฎหมายนี่ผิดไหม อันนี้ไม่ทราบจริงๆครับ?"

ต่อมามีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ทั้งเข้ามาตอบในกระทู้ และตอบความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊ก โดยส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำเหมาะสมหรือไม่ และเข้าข่ายการแอบถ่ายภาพยนตร์ พร้อมเสนอให้เจ้าของกระทู้แจ้งความ เพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม สำหรับไอจีสตอรี่ดังกล่าว เป็นของผู้ใช้ชื่อ dew.nattapong9 หรือ นายนัทธพงศ์ พรมสิงห์ หรือ ดิว เคยเข้าร่วมประกวดรายการ The Star 9 หมายเลข 7 และยังมีผลงานละครอีกหลายเรื่อง

.

.

วันนี้(26ก.ย.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีตามที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวบุคคลหรือดาราที่มีชื่อเสียงทำการโพสต์ภาพหรือคลิปที่อาจเข้าข่ายเป็นละเมิดลิขสิทธิ์ในโรงภาพยนต์ลงในโลกโซเชียลมีเดีย และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายว่า 
ขอเรียนในเบื้องต้นว่าพฤติกรรมหรือการกระทำในลักษณะดังกล่าวนั้น อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 (แก้ไขฉบับที่3) มาตรา 28/1 การทำซ้ำโดยการบันทึกเสียงหรือภาพหรือทั้งเสียงและภาพจากภาพยนตร์อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ ในโรงภาพยนตร์ตามกฎหมายว่าด้วยภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 (5) ในระหว่างการฉายในโรงภาพยนตร์ ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ และ และมิให้นำมาตรา 32 วรรคสอง (2) มาใช้บังคับ คือ จะอ้างว่า บันทึกเสียงหรือภาพหรือทั้งเสียงและภาพ เพียงเพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท ไม่ได้มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6เดือน- 4ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 - 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นนั้นการกระทำของกรณีดังกล่าว หากเป็นความผิดที่เกิดขึ้นต่อส่วนตัว ในส่วนของความเสียหายตามความผิดที่เกิดขึ้นจากการดัดแปลง ทำซ้ำ หรือกระทำที่เกี่ยวข้อง ก็คงต้องให้ผู้เสียหายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป หรือ หากเป็นการกระทำเข้าข่ายในกฎหมายอื่นๆอาทิ เรื่องเครื่องหมายการค้า หรือที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะสามารถดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ เพราะถือว่าเป็นความผิดต่ออาญาแผ่นดิน
พร้อมกันนี้ขอฝากเตือน ถึงการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง แม้ในบางครั้งอาจจะทำไปด้วยความคึกคะนองหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์นอกจากจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่บุคคลอื่นแล้ว ท่านอาจจะถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ