ซึ่งภายหลังดำเนินการเสร็จเอกชนยังไม่ได้รับเงินตามโครงการดังกล่าว ปัจจุบันคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า กรณีการฟ้องร้องดังกล่าวจะเห็นได้ว่าอาจมีการใช้เงินพ.ศ.ไปโดยไม่ถูกต้อง จึงมีปัญหาการชำระหนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงควรมีการสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป ว่าการใช้เงินงบประมาณดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะขณะนี้กำลังตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณบางรายการในลักษณะที่มีการกล่าวหาว่ามีการใช้จ่ายเงินงบประมาณผิดวัตถุประสงค์ไปแล้วหลายกรณี
นอกจากหมายเหตุประกอบงบการเงินดังกล่าวแล้วยังมีเอกสารการใช้จ่ายงบประมาณของพ.ศ.ที่ควรตรวจสอบตามมาด้วยว่า มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ตามกรณีตัวอย่างต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.54 สำนักงานป.ป.ช.ได้ขอรับเงินสนับสนุนจากพ.ศ.ไปเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.55 สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอรับเงินสนับสนุนจากพ.ศ.ไปเป็นจำนวนเงิน 5 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 55 สำนักงานศาลยุติธรรมได้ขอรับเงินสนับสนุนจากพ.ศ.ไปเป็นจำนวนเงิน 3 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 55 ตามบันทึกข้อความของกองพุทธศาสนศึกษาระบุว่าสำนักงานอัยการสูงสุดได้ขอรับเงินสนับสนุนจากพ.ศ.ไปเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท
"การที่ทั้ง 3 หน่วยงานขอเงินจากพ.ศ.นั้น มีเหตุอันควรสงสัยเพื่อตรวจสอบต่อไปว่าหน่วยงานทั้ง 3 ควรใช้งบประมาณของตนเองหรือไม่ ทำไมจึงมาขอเงินสนับสนุนจากพ.ศ. และเข้าข่ายการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ หน่วยงานและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดเข้าข่ายฐานร่วมกันฟอกเงินหรือไม่
ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ย.) ผมจะไปยื่นหนังสือให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้สอบหาข้อเท็จจริงต่อไป"นายเรืองไกรกล่าว