อัยการมีคำสั่ง "ไม่สั่งฟ้อง" คดี3 แกนนำเพื่อไทยและอดีตแกนนำไทยรักษาชาติ ผิดม.116

ในข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นเพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบในราชอาณาจักรฯ และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่3/2558 เรื่อง ห้ามชุมนุม กรณีแถลงข่าว "4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำไปสู่ความมืดมนอันตราย" เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2561 
รวมถึงกรณีคดีของอดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานพิชัย นริพทะพันธุ์ ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหา พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศฯ กรณีโพสเฟสบุ๊ค ภาพพลเอกประยุทธฯ ในนิตยสาร Time กับข้อความ ห้ามจำหน่ายในประเทศไทย และภาพการดูด ส.ส. 4.0 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.61
โดยในวันนี้ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ เเละนายยอดชาย ศีลนำสุข ทีมทนายความได้เดินทางมาฟังคำสั่ง ซึ่งภายหลังฟังคำสั่ง
นายนรินท์พงศ์ เปิดเผยว่าในส่วนของคดีที่ 3 แกนนำจัดงานแถลงข่าวความล้มเหลวของคศช. เมื่อปี 2561นั้น ปรากฏว่าอัยการมีคำสั่ง ไม่สั่งฟ้องคดีดังกล่าว โดยรายละเอียดของการไม่สั่งฟ้องนั้นอยู่ในกระบวนการทำสำนวนของอัยการ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยออกมา ทั้งนี้จึงทำให้คดีทั้ง 3 แกนถือเป็นที่สิ้นสุด
นายนรินท์พงศ์ ยังบอกอีกว่าสำหรับคดีนี้ อัยการได้ให้ความเป็นธรรม แต่หากกลับกันเป็นบุคคลธรรมดาที่โดนคสช.ดำเนินคดีในรูปแบบนี้ก็อาจทำให้ลำบากในการสู้คดี พร้อมยืนยันแกนนำทั้ง3 ไม่ได้มีความผิดไปตามที่ถูกกล่าวหาตามม.116
ส่วนคดีความของนายพิชัย ทางพนักงานอัยการได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งออกไปเป็นวันที่ 29 ต.ค.2562