ราเม็งพิเศษนี้ มีสนนราคาชามละ 3 พันเยน หรือราว 850 บาท แต่สำหรับผู้ที่ต้องการลิ้มลองรสชาติของปลาปิรันยาแบบเต็ม ๆ ทั้งตัว ก็จะต้องเพิ่มเงินอีก 2 พัน 500 เยน หรืออีก 700 บาท รวมเป็นชามละ 1 พัน 560 บาท
สาเหตุที่มันแพงก็เพราะการขนส่งที่ต้องผ่านมาหลายประเทศ ทำให้วัตถุดิบมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1 หมื่นเยน หรือ 2 พัน 800 บาท
ในความเห็นของหลายคนที่ได้ลิ้มชิมรสปลาจากลุ่มแม่น้ำอเมซอนในชามราเม็งบอกว่า รสชาติของมันอ่อน ๆ คล้ายกับปลากระพง และมันไม่ได้มีก้างเยอะอย่างที่คิด และกินได้ง่าย
เรื่องนี้มีต้นกำเนิดมาจากมุกขำ ๆ ในวัน April's Fools' Day ของบริษัท Holiday Jack Events แต่กลายเป็นว่ามันเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน ท้ายที่สุดจึงมีการนำเข้าปลาปิรันยาเข้ามา 300 กิโลกรัม คิดเป็นตัวก็ประมาณ 2 พันตัว เพื่อนำมาสนองความต้องการของคนที่อยากจะกินมัน
เมนูพิเศษนี้มีให้กินกันแค่ 4 วันในช่วงเดือนกันยายนเท่านั้น และมีให้กินกันแค่ 1 พันชามเท่านั้น