(สกู๊ป) วิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชา ยังต้องการอีกมาก

ใครที่มองหาโอกาสไว้ว่าจะปลูกกัญชา ส่งออก คงจะเป็นเพียงความฝันไปก่อน เพราะไม่ใช่ว่าเอกชนจะปลูกได้ทันที ต้องทำในนามของวิสาหกิจชุมชน เพื่อป้องกันนายทุนผูกขาด
และอาจจะนับว่าที่นี่เป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่ มีการปลูกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายในลักษณะของ 'วิสาหกิจชุมชน' ที่ส่งผลผลิตให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่
'วิสาหกิจชุมชนเพลาเพลิน' ร่วมมือกับชาวบ้าน เริ่มต้นทำการปลูกกัญชาในระบบปิด 'รีสอร์ทเพลาเพลิน' เจ้าของที่ดิน ลงทุนต่อเติมห้อง กว่า 7 แสนบาทเพื่อใช้เป็นฟาร์มปลูกกัญชาที่ได้มาตรฐาน เพื่อส่งให้กับโรงพยาบาลคูเมือง อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งได้มาตรฐาน GPA ในการผลิตยาจากสมุนไพรทั้งในรูปแบบแผนปัจจุบัน และแผนไทยในช่วงของการเริ่มต้น'วิสาหกิจชุมชนเพลาเพลิน' ปลูกกัญชาใน 4 สายพันธุ์ทั้งสายพันธุ์ไทยและต่างประเทศ โดยปลูกทั้งหมดเกือบ 300 ต้น คาดว่าจะให้ผลผลิตได้ภายในสิ้นปีนี้ จำนวน 16 กิโลกรัมใบกัญชาแห้งจำนวนกัญชา 16 กิโลกรัมนี้ อาจเพียงพอสำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรงพยาบาลคูเมืองเองเท่านั้น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลคูเมือง บอกว่า ได้ตั้งเป้าหมายที่จะผลิตยากัญชาส่งให้กับโรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 9 นครชัยบุรินทร์ ซึ่งประกอบไปด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งมีกว่า 20 โรงพยาบาล มีความต้องการ 1 หมื่นขวดก็จำเป็นต้องใช้ กัญชาแห้ง เป็นจำนวน 1 ตัน ซึ่งยังนับว่ากำลังการผลิตของวิสาหกิจชุมชนเพลาเพลิน น้อยนิดมากเมื่อเทียบกับเป้าหมายของโรงพยาบาลคูเมือง
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีวิสาหกิจชุมชนเช่นเดียวกันนี้อีกหลายๆแห่ง เพื่อที่จะปลูกกัญชาส่งให้กับโรงพยาบาลผลิตยาต่อไปรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงยกตัวอย่างของ 'วิสาหกิจชุมชนเพลาเพลิน' เป็น 'บุรีรัมย์โมเดล' ในการขยายพื้นที่การปลูกกัญชาทางการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไปยังพื้นที่อื่นๆในรูปแบบเดียวกัน
ส่วนราคากลาง 'กัญชา' อยู่ในราคาเท่าไหร่ โรงพยาบาลอภัยภูเบศรกำลังจัดทำฐานข้อมูลราคา ใบกัญชาแห้ง แต่ถ้าสอบถามจากตลาดใต้ดิน ทราบมาว่าอยู่ที่ 2,500 บาทต่อขีดใบกัญชาแห้ง ซึ่งนับว่าสูงมาก
ราคากัญชาใต้ดิน ที่พุ่งสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการใช้กัญชามีมาก แต่กัญชาก็ยังปลูกได้น้อย คงต้องจับตาดูว่าหากมีการผลักดันกัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ผ่านกลไกของวิสาหกิจชุมชน จะได้รับผลตอบแทนมากน้อยเพียงใด