จากกรณีที่ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมหลักฐานไปยื่นเพิ่มเติมให้กับ กกต. เพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวน เอาผิด นายธนาธร และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ตาม มาตรา 66 วรรคสอง ประกอบมาตรา 125
ซึ่งอาจต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนด 5 ปี และให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่า 10 ล้านบาท ที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ให้ตกเป็นของกองทุนได้อย่างไรนายปินบุตรมั่นใจว่าไม่ผิด
เพราะเงินกู้ไม่ใช่รายได้และไม่ผิด พรป.พรรคการเมือง ซึ่งรัฐธรรมนูญมีข้อห้ามมากมายเช่นห้ามรับเงินต่างชาติ แต่ไม่มีมาตราใดระบุว่า ห้ามกู้เงิน จึงสามารถทำได้ เพราะพรรคการเมืองไม่ใช่หน่วยงานของรัฐ
ส่วนกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า นายธนาธรไม่ได้ชี้แจงทรัพย์สินที่ผ่านกระบวนการ Blind Trust หรือการโอนทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งหมดเข้าไปอยู่ในกองทุนโดยให้บุคคลที่สามเป็นผู้ดูแล
ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์พร้อมกับจัดงานแถลงข่าวที่พรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2562 โชว์บันทึกตกลงร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนภัทร จำกัด โดยจะนำหุ้นในบริษัทมหาชน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ โอนให้นิติบุคคลเป็นผู้จัดการทรัพย์สิน กับปปช.
นายปิยบุตรบอกว่า ขณะนี้นายธนาธรเป็น ส.ส.แต่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฎบัติหน้าที่อยู่ หากศาลยกคำร้องตรงนี้ก็สามารถดำเนินการได้ เพราะเมื่อเป็น ส.ส.และได้ปฎิบัติหน้าที่ เชื่อว่านายธนาธรจะนำทรัพย์เข้ากระบวนการ Blind Trust เพราะเป็นความตั้งใจที่จะยกมาตฐานจริยธรรมทางการเมือง