ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่เริ่มต้นการประท้วงภายใต้ชื่อ "โกลบอล สไตรก์ ฟอร์ ไคลเมท" โดยมีการชุมนุมในกว่า 110 เมืองทั่วออสเตรเลีย เช่น ซิดนีย์ และ เมลเบิร์น และประเมินว่ามีนักเรียนเข้าร่วมรวมกว่า 3 แสนคน การชุมนุมกำหนดทยอยจัดขึ้นใน 4,638 แห่งใน 139 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากโลกร้อนและเรียกร้องให้รัฐบาลและภาคธุรกิจตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2030 ซึ่งจะเป็นการชุมนุมโลกร้อนครั้งใหญ่ที่สุดที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมหลายล้านคน และนอกเหนือจากเด็กนักเรียนแล้ว ยังมีผู้ใหญ่จากหลายหลายอาชีพและนักเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมด้วย
การชุมนุมมุ่งส่งสัญญาณเตือนถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาโลกร้อนเพราะไม่มีแผนสำรองอื่นและโลกใบอื่น อย่างผู้ชุมนุมในฟิลิปปินส์ชูป้ายประท้วงที่มีข้อความว่า "ภาวะฉุกเฉินทางสภาพภูมิอากาศ" และ "ไม่มีดาวบี" ผู้ประท้วงเรียกร้องให้ผู้นำฟิลิปปินส์และทั่วโลกหยุดผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหินและเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่นๆ และพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน
การชุมนุมริเริ่มโดย เกรต้า ทุนเบิร์ก นักเคลื่อนไหวเพื่อสภาพภูมิอากาศชาวสวีเดนวัย 16 ปี และเธอจะเข้าร่วมการชุมนุมที่นครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการประท้วง ที่คาดว่าจะมีเด็กเข้าร่วมชุมนุมราว 1.1 ล้านคน นอกจากนี้เธอจะกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโลกร้อนจัดโดยสหประชาชาติในสัปดาห์หน้า ที่มีเป้าหมายเร่งผลักดันการบังคับใช้ข้อตกลงปารีส