นายกฯ ลั่น อย่าเอาคนเปรียบกับเทวดา ไม่หวัง ส.ส.เพื่อไทยมาต้อนรับ

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลและช่วยเหบือประชาชนที่ประสบอุทกภัย โดยยืนยันว่ารัฐบาลดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมสั่งการให้ยกระดับ 4 จังหวัด (อุบลฯ ยโสธร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ) ที่เดือดร้อนมาก เพราะจะต้องเข้าสู่การเตรียมการฟื้นฟู ส่วนกระแสข่าวประชาชนโอดครวญว่าต้องรื้อเพิงพักพิง ที่ อ.วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อหลีกทางให้นายกฯ 

ระหว่างลงพื้นที่วานนี้นั้น นายกฯ ย้ำว่า เป็นคนละเส้นทางกับที่ไปลงพื้นที่ การออกข่าวแบบนี้สื่อให้เห็นว่าบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เป็นการใช้สื่อโซเชียลที่ไม่ถูกต้อง โดยข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า ถนนเปิดแล้ว ดังนั้นจึงกีดขวางจราจร ก็ต้องขยับขยายกันใหม่ หาจุดให้อยู่ใหม่ ซึ่งอัตลักษณ์ของคนไทย อยากอยู่ใกล้บ้าน แม้เตรียมที่พักพิงไว้หลายจุด มีห้องน้ำสบายๆ แต่ก็ไม่อยากไป อยากอยู่ใกล้ๆบ้าน แต่ตนก็ว่าใครไม่ได้ เพียงแต่ทำอย่างไรจึงจะเข้าใจกัน และย้ำไปแล้วว่าต้องดูแลประชาชนให้ดีที่สุด รู้สึกดีใจที่ได้ไปเยี่ยมประชาชน หลังจากนี้ตนไม่อยู่ไปต่างประเทศ จะหมุนเวียนรองนายกฯ และรัฐมนตรี ไปเยี่ยมให้มากขึ้น โดยมอบหมายให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำกับดูแลตรงนี้เมื่อถามว่า หลังน้ำลดได้สั่งการทหารให้ดูแลประชาชนอย่างไร ในเรื่องการฟื้นฟู 
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ต้องเอามาตรการต่างๆ เข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ตอนนี้อยู่ขั้นตอนของการสำรวจ บางพื้นที่ที่น้ำลดแล้ว แต่บางพื้นที่ยังไม่สามารถสำรวจได้ต้องรอน้ำลด ก็ให้ทยอยทำไปก่อน ส่วนเรื่องการฟื้นฟู ทหารจะมีบทบาทร่วม 
การซ่อมแซมถนน กระทรวงคมนาคมรับผิดชอบ ทั้งกรมทางหลวงชนบท และท้องถิ่น ซึ่งจะต้องหารือร่วมกัน รัฐบาลมีหน้าที่ในการเตรียมวงเงินงบประมาณไว้ ทหารที่จะลงไปช่วยจะเป็นทหารช่าง หน่วยทหารพัฒนา ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือ ช่วยซ่อมถนนและรางระบายน้ำ รวมถึงซ่อมบ้านพักที่เสียหายทั้งหลังและเสียหายบางส่วน ระหว่างซ่อมต้องหาที่อยู่ให้ประชาชนไปพลางก่อน หากงบประมาณไม่พอก็ต้องหามาเติมให้

เมื่อถามว่า เม็ดเงินในการช่วยเหลือมีเท่าไร
นายกฯ กล่าวว่า ตัวเลขหลายหมื่นล้าน ไม่ใช่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราคาดการณ์ไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพายุที่เข้ามา ซึ่งครั้งนี้ถือว่ารุนแรง ฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำสะสมจำนวนมาก 
นายกฯ ยังอธิบายด้วยว่า เงินหลวงที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชน แจกเลยไม่ได้ เพราะมีระเบียบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ต้องมีแผนงานโครงการที่ชัดเจน และมีแผนสำรวจชัดเจน ถ้าจะล้มระเบียบตรงนี้ คราวหน้าจะใช้อะไรกันก็ได้ใช่หรือไม่ มันไม่ได้ แต่ช่วงนี้ใครจะบริจาคก็เป็นเรื่องของเขาที่จะช่วย แต่มันก็ไม่ทั่วถึงอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ได้ให้กำลังใจ แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาตีรัฐบาล ทำไมไม่ทำอย่างนั้น ซึ่งมันทำไม่ได้ ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะเงินส่วนใหญ่ต้องทำให้รูปแบบครบถ้วน เข้าเรื่องการเยียวยา พืชไร่ พืชสวน ประมง ปศุสัตว์ ต้องสำรวจทั้งหมด นี่คือเรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐ เกี่ยวกับงบประมาณหลวง ส่วนเรื่องงบบริจาคก็นำไปเติม นี่คือความละเอียดถี่ถ้วนในการทำงานต้องรอบคอบ
"ขอให้ใจเย็นๆ รู้ว่าเดือดร้อน คนอยากได้เงิน แต่ก็ต้องเห็นใจด้วย เงินพวกนี้ไม่ใช่เงินของใครคนใดคนหนึ่ง เป็นงบประมาณภาพรวมของรัฐบาล ซึ่งมาจากภาษีของประชาชน ซึ่งเราทุ่มไปเท่าไหร่แล้ว แม้แต่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย เราก็ใช้เงินไปเท่าไหร่แล้ว คัดกรองโดยบัตรสวัสดิการ เพื่อให้รู้ว่าคนมีรายได้น้อยมีจำนวนเท่าไหร่ แต่ถ้าเราทำไปทั้งหมดมันก็ไม่ทั่วถึง ซึ่งเราทำได้ในระดับหนึ่งและจะพัฒนาต่อไปในทุกๆมิติ"

เมื่อถามถึงกรณี นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.พรรคเพื่อไทย เปรียบนายกฯ ว่าเป็นนายกเทวดา 
นายกฯ บอกว่า การลงพื้นที่อุบลราชธานี ตนได้ถาม ว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทยมาหรือไม่ นี่คือการปฏิรูปการเมือง ไม่ได้ให้เขามาต้อนรับ แต่ถ้าเขามาก็จะถามว่าอยากได้อะไร ต้องการอะไร ไม่ได้ฟังแต่ ส.ส.รัฐบาลอย่างเดียว แต่ ส.ส.เหล่านี้เขาก็ไปฟังความต้องการของชาวบ้านมาเหมือนกัน จะได้นำมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เรียกให้มารับตน ไม่จำเป็นต้องมีใครมารับสักคน ตนก็ไปได้ 
พร้อมระบุว่า อย่าเอาคนไปยุ่งกับเทวดา มนุษย์ก็คือมนุษย์ เทวดาคือเทวดา อย่าเอาเรื่องเหล่านี้มาตีกันมากมาย มันเป็นเรื่องไร้สาระ


สำหรับแนวคิดการย้ายเมืองหลวง เพื่อแก้ปัญหาความแออัดในกรุงเทพฯ นั้น เห็นว่า เป็นเพียงแนวคิด หากจะย้าย จะย้ายได้อย่างไรและย้ายไปที่ไหน เรื่องนี้ต้องคิดไว้ล่วงหน้า สิ่งสำคัญที่สุดเคยทำอย่างไรให้กรุงเทพฯ มีความเจริญรอบนอกขึ้นมาให้ได้ เพื่อคนจะได้ไม่เข้ามาอยู่ภายในกันมากนัก ซึ่งจะต้องปรับผังเมือง โดยประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการวางผังเมือง แต่หลายคนก็ไม่ชอบให้ปรับนั่นนี่ เพราะกระทบกับที่ของตัวเอง ซึ่งในหลายประเทศส่วนใหญ่จะวางผังเมืองก่อนที่คนจะเข้ามาอยู่ แต่ของเราคนเข้ามาอยู่ก่อน ดังนั้นการวางผังเมืองค่อนข้างยาก ต้องฟังประชาชนเป็นส่วนใหญ่