svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

วีรศักดิ์นำทีมพบปะเกษตรกรแนะใช้เอฟทีเอ

20 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วีรศักดิ์" เตรียมนำทีมกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร พร้อมชี้ช่องใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ขยายส่งออกสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ อาทิ อาเซียนและจีน และเตรียมรับมือโคเนื้อนำเข้าจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ที่ไทยต้องลดภาษีนำเข้าในปี 2564

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศลรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าจะนำคณะลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร ระหว่างวันที่ 23-24กันยายน 2562เพื่อผลักดันนโยบายให้สหกรณ์และเกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ขยายการส่งออกสินค้าเกษตรในพื้นที่โดยเฉพาะสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ไปตลาดต่างประเทศ อาทิ อาเซียนและจีนซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากไทยแล้วภายใต้ข้อตกลงร่วมกันในเอฟทีเอ

วีรศักดิ์นำทีมพบปะเกษตรกรแนะใช้เอฟทีเอ

ทั้งนี้ในวันที่ 23 กันยายน 2562จะลงพื้นที่พบปะและให้ความรู้แก่เกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัดอำเภอหนองสูง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเลี้ยงโคขุน จำนวน 3,181 รายจำนวนโคที่ขึ้นทะเบียนขุน 5,200 ตัว มีปริมาณการเลี้ยงโคขุนสูงเป็นลำดับต้นๆของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และในวันที่ 24 กันยายน 2562 จะเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ "พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี"ณ โรงแรมพลอยพาเลซ จังหวัดมุกดาหาร ให้กับสมาชิกสหกรณ์ เกษตรกรในจังหวัดมุกดาหาร กาฬสินธุ์ นครพนม และสกลนคร เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีโคเนื้อการเปิดตลาดสินค้าโคเนื้อและผลิตภัณฑ์สู่ตลาดต่างประเทศ

วีรศักดิ์นำทีมพบปะเกษตรกรแนะใช้เอฟทีเอ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรมอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เสริมว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้สอดรับกับนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการช่วยกระจายสินค้าในภูมิภาคของไทยไปต่างประเทศเพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยมีรายได้ที่มั่นคงโดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัดซึ่งเป็นศูนย์กลางการรวบรวมโคเนื้อเพื่อชำแหละแปรรูปเนื้อโคคุณภาพส่งจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วประเทศ เช่น บริษัท สยามแมคโคร จำกัด (มหาชน) บริษัทโชคชัยอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด บริษัท อาร์โนส์เซ็นทรัล บุชเชอร์ จำกัด บริษัท กินชะโด (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น โดยสหกรณ์ฯยังมีแผนจะส่งออกเนื้อโคไปตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการบริโภคสูงด้วย


นอกจากนี้ ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการจะมีการเสวนา เรื่อง "ติดอาวุธสหกรณ์ไทยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ"และ "ยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทยให้ก้าวไกลในโลกการค้าเสรี" โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาดมาวิเคราะห์สินค้าและแนะนำตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้กับสหกรณ์อีกด้วย ทั้งนี้มั่นใจว่าการลงพื้นที่และการสัมมนาฯ ครั้งนี้ จะทำให้สหกรณ์ เกษตรกรเข้าใจถึงช่องทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆขยายช่องทางการส่งออกของไทย โดยเฉพาะอาเซียน-จีนและจะเน้นการเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรไทยรับมือโคเนื้อนำเข้าจากต่างประเทศ เช่นออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ที่ไทยต้องลดภาษีนำเข้าในต้นปี 2564

 

logoline