svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ยธ.ยกเลิกสัญญากำไล EM เรียกค่าเสียหาย 83 ล้าน

20 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รมว.ยุติธรรม ยกเลิกสัญญาเช่าใช้กำไลอีเอ็มบริษัทเอกชน พร้อมเรียกค่าเสียหาย 83 ล้านบาท กำหนดชำระภายใน 15 วัน เตรียมเดินหน้ายื่นอัยการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หากบริษัทไม่ดำเนินการภายในกำหนด

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงยกเลิกสัญญาการเช่าใช้อุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือกำไลอีเอ็ม จากบริษัทสุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด หลังคณะกรรมการตรวจสอบใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 1 เดือน จนพบข้อบกพร่องของกำไลอีเอ็มว่าผิดเงื่อนไขสัญญาอย่างชัดเจน ทั้งบอบบาง ถอดออกง่าย และเมื่อถอดออกแล้วยังไม่มีการแจ้งเตือนกลับมายังศูนย์ควบคุมกำไลอีเอ็มจึงได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญ นำมาสู่การบอกเลิกสัญญากับบริษัทสุพรีมฯ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 62 และให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายรวม 83 ล้านบาทให้กับกรมคุมประพฤติภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 62 ที่กรมฯได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังบริษัทให้รับทราบ ซึ่งจะครบกำหนดให้ชำระค่าปรับในวันที่ 4 ต.ค.นี้ หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด ทางกรมฯจะส่งรายละเอียดให้สำนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไปสำหรับเงินค่าปรับ 83 ล้านบาทนั้น ประเมินจากความเสียหาย 4 ข้อคือ1.กรณีส่งมอบอุปกรณ์ติดตั้งล่าช้าเป็นเงิน 1.7 ล้านบาท2.กรณีไม่นำอุปกรณ์มาเปลี่ยนใหม่ภายในเวลากำหนด 26 วัน เป็นเงิน 52 ล้านบาท โดยคิดจากกำไลอีเอ็ม 4,000 เครื่อง ค่าปรับเครื่องละ 500 บาทต่อวัน3.กรณีที่เจ้าหน้าที่ไม่มาปฏิบัติงานในศูนย์ปฏิบัติการอีเอ็มเป็นเวลา 1 เดือน เป็นเงิน 22,500 บาทและ 4.กรณีบอกเลิกสัญญาเมื่อปี 2561 เป็นเงิน 21.6 ล้านบาท และปี 2562 เป็นเงิน 8.1 ล้านบาท รวม 29.7 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 83 ล้านบาท ส่วนเจ้าหน้าที่ของกรมคุมประพฤติจะต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้อย่างไรนายสมศักดิ์บอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากทางกรมฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินตามสัญญาเช่าใช้กำไลอีเอ็ม วงเงินงบประมาณ 74 ล้านบาทให้กับบริษัท อีกทั้งเมื่อพบความผิดปกติกรมฯพยายามติดตามทวงถามบริษัทให้ดำเนินการให้ครบถ้วนตามสัญญามาโดยตลอด แต่บริษัทไม่ปฏิบัติตาม เห็นได้ชัดว่าจงใจทำผิดเงื่อนไขสัญญาอย่างชัดเจน นายสมศักดิ์ยังบอกถึงแนวทางการจัดหาบริษัทเอกชนเข้าประมูลงานกำไลอีเอ็มของกรมคุมประพฤติในครั้งต่อไปว่าขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดระยะเวลาโครงการ เนื่องจากงบประมาณหมดแล้วต้องรองบก้อนใหม่ ซึ่งบริษัทที่จะเข้าประมูลงานต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งอุปกรณ์ได้มาตรฐาน ราคาถูกและดี ส่วนจะมีการขึ้นแบล็กลิสต์บริษัทสุพรีมที่ถูกยกเลิกสัญญาหรือไม่ ต้องไปดูระเบียบของกรมบัญชีกลาง โดยระหว่างนี้ทางกรมฯได้แจ้งไปยังศาลยุติธรรม ของดใช้กำไลอีเอ็มกับผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 541 ราย และศาลจะกำหนดเงื่อนไขในการคุมประพฤติอย่างอื่นแทน เช่นให้ไปรายงานตัวกับศาล หรือปฏิบัติงานเพื่อสังคม จนกว่าจะได้บริษัทผู้ประมูลรายใหม่สำหรับโครงการนี้กรมคุมประพฤติทำสัญญาเช่าใช้กำไลอีเอ็มจำนวน 4,000 เครื่องกับบริษัทสุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. 61 โดยทำสัญญา 21 เดือน แต่มาโดนยกเลิกสัญญากลางครันเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งที่เพิ่งนำมาใช้ได้เพียง 1 ปี

logoline