svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ถึงเวลาย้ายเมืองหลวง?

19 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แนวคิด 'ย้ายเมืองหลวง' ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ต้องการย้ายไป'จังหวัดเพชรบูรณ์' และแนวคิดย้ายเมืองหลวงได้เกิดขึ้นอีกครั้งช่วงนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการย้ายเมืองหลวงไป'จังหวัดนครนายก'

"ในกรุงเทพฯ สถานที่ต่างๆ ยังอยู่ในที่เดิม ทำอย่างไรให้ขยายไปรอบนอกบ้าง จะย้ายเมืองหลวงอย่างเขาไหม ก็ต้องไปคิดมา จะย้ายไปที่ไหน ใช้งบประมาณอย่างไร หรือจะขยายรอบกรุงเทพฯ ให้กว้างขึ้น จะได้เข้าพื้นที่ใจกลางเมืองให้น้อยลง"

บางช่วงบางตอนของการกล่าว เปิดการประชุมประจำปี 2562 ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2562 ที่สื่อพากันนำไปพาดหัวว่า 'บิ๊กตู่ผุดแนวคิดย้ายเมืองหลวง'

แนวคิด 'ย้ายเมืองหลวง' ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ต้องการย้ายไป'จังหวัดเพชรบูรณ์' และแนวคิดย้ายเมืองหลวงได้เกิดขึ้นอีกครั้งช่วงนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการย้ายเมืองหลวงไป'จังหวัดนครนายก'

รอบนี้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะไม่ระบุว่าจะย้ายไปจังหวัดไหน แต่ก็น่าคิดว่าพื้นที่ใดเหมาะสมที่สุดหากจะมีการย้ายเมืองหลวง

ทำไมถึงต้องย้ายเมืองหลวง? เพราะกรุงเทพฯประสบปัญหาความแออัดของชุมชนเมือง ที่ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยการจัดผังเมืองได้อีกต่อไปแล้วเนื่องจาก พื้นที่ไม่เพียงพอ แล้วทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาเช่นปัญหาการระบายน้ำ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ชายฝั่งที่ในอนาคตอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อ การกัดเซาะชายฝั่ง และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น

ข้อมูลทางวิชาการระบุไปในทิศทางเดียวกันว่ากรุงเทพฯเสี่ยงที่จะจมน้ำภายในอีก 20 ปี นี่ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราต้อง 'ย้ายเมืองหลวง' แต่สิ่งที่พลเอกประยุทธ์พูดในแนวคิดย้ายเมืองหลวงเมื่อวันก่อน เน้นที่ปัญหาการจราจรแออัด จนไม่สามารถแก้ไขได้

ในขณะที่แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม จากผู้คนใน Social Media ที่คอมเม้นท์ในทิศทางเดียวกันว่าเห็นด้วย กับการย้ายเมืองหลวงเพื่อแก้ปัญหาความแออัดของเมือง การจราจร และปัญหาสิ่งแวดล้อม

ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง 'อินโดนีเซีย' ตัดสินใจย้ายเมืองหลวงแล้ว จาก 'กรุงจาการ์ตา' ไปอยู่ที่เกาะบอร์เนียวซึ่งพื้นที่เป้าหมายในการย้ายเมืองหลวงเป็นพื้นที่ที่เกิดภัยธรรมชาติน้อย สำหรับกรุงจาการ์ตานั้น 1 ใน 3 ของเมืองจะจมน้ำภายในปี 2593 นับว่าเป็นเมืองหลวงที่กำลังประสบปัญหาเดียวกันกับกรุงเทพฯ อีกทั้งเมืองยังต้องประสบปัญหากับชุมชนแออัด ปัญหาการจัดการน้ำเสีย

รัฐบาลอินโดนีเซีย เห็นว่า 'กรุงจาการ์ต้า' ไม่สามารถที่จะรองรับการบริหารการเป็นศูนย์กลางการบริหาร ธุรกิจและการเงิน ในอนาคตได้ การย้ายเมืองหลวงครั้งนี้ของอินโดนีเซีย ซึ่งกำลังดำเนินการขึ้นโดยใช้งบประมาณกว่า 1 ล้านล้านบาท

สำหรับกรุงเทพฯ การย้ายเมืองหลวงอาจเป็นเรื่องยุ่งยากกว่าดีกว่า'อินโดนีเซีย' เพราะปัจจุบันมีการวางโครงสร้างพื้นฐานไว้มากมาย ลงทุนไปหลายแสนล้านบาทกับโครงข่ายรถไฟฟ้า ว่ากันว่าถ้าสร้างเสร็จครบ ใช้ไปได้ไม่เท่าไหร่กรุงเทพฯก็อาจต้องจมน้ำ

นอกจากนี้ ยังมีมิติในแง่มุมของประวัติศาสตร์ ความเชื่อเรื่องดวงเมือง เพราะการย้ายเมืองหลวงก็คือการเปลี่ยนแปลงดวงเมืองดวงประเทศ ซึ่งนับเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

สำหรับประเทศไทยการย้ายเมืองหลวง คงเป็นเรื่องยากและซับซ้อนมาก แต่เสียงส่วนใหญ่กับเห็นด้วย!


#วชิรวิทย์ #วชิรวิทย์รายวัน #Vajiravit #VajiravitDaily #Nation #NationTV

logoline