svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สั่งเร่งใช้ข้อได้เปรียบจากการค้าเสรีเพื่อเพิ่มการส่งออก

19 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"วีรศักดิ์" นำทัพกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พูดคุยเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ในพื้นที่ พบเงาะ กล้วยหอม และกุ้งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพส่งออก สั่งเร่งหาทางใช้ข้อได้เปรียบจากความตกลงการค้าเสรีหรือเอฟทีเอที่ไทยมีกับประเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มการส่งออก

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีในวันนี้เพื่อต้องการทราบว่าสินค้าเกษตรท้องถิ่นที่มีศักยภาพในการส่งออกหรือที่มีการส่งออกอยู่แล้วมีความต้องการให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนให้สินค้าเหล่านั้นสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้เพิ่มขึ้นซึ่งพบว่าเงาะ กล้วยหอม และกุ้ง เป็นสินค้าที่มีศักยภาพและมีการรวมกลุ่มตั้งเป็นสหกรณ์ที่มีการบริหารจัดการที่ดีและมีการส่งออกไปยังต่างประเทศบ้างแล้วซึ่งตนมองว่ายังมีช่องทางที่จะขยายการส่งออกได้เพิ่มขึ้นอีกโดยเฉพาะในประเทศที่เราทำความตกลงการค้าเสรีด้วย เช่น อาเซียน จีน และญี่ปุ่นซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากไทยจึงอยากให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าให้มากๆและได้สั่งให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศช่วยเร่งให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ต่อไป

สั่งเร่งใช้ข้อได้เปรียบจากการค้าเสรีเพื่อเพิ่มการส่งออก

ทั้งนี้ ในวันที่ 20 กันยายน 2562ตนจะเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "ติดอาวุธสหกรณ์ไทยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ" และ "ยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทยให้ก้าวไกลในโลกการค้าเสรี" ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้กับสมาชิกสหกรณ์เกษตรกร ในจังหวัด  สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ และพังงา เพื่อผลักดันนโยบายให้สหกรณ์และเกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ)

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์โดยให้ความสำคัญกับการหาตลาดและกระจายสินค้าในภูมิภาคของไทยไปต่างประเทศโดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้เกษตรกรและผู้ประกอบการไทยจึงร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินโครงการ "พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี"เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคของไทยสู่สากลโดยในวันที่ 19 กันยายน 2562รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์นำคณะลงพื้นที่พบปะเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสารจำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลไม้ของสมาชิกสหกรณ์โดยเฉพาะเงาะนาสาร ที่ส่งออกไปจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์โดยปัจจุบันสหกรณ์รวบรวมเงาะได้วันละ 2.5 ตัน ส่งขายในราคากิโลกรัมละ 160 บาทในขณะที่ราคาเงาะในประเทศกิโลกรัมละ 20 กว่าบาทนับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าได้หลายเท่าพร้อมช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรได้อย่างยั่งยืนในอนาคตสหกรณ์เตรียมส่งออกเงาะพรีเมี่ยมโดยใช้แบรนด์ของสหกรณ์เอง ชื่อ "เคหว่อง" และมีแผนออกแบบบรรจุภัณฑ์จัดทำ QR CODE เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตได้ส่วนกล้วยหอม ปัจจุบันส่งกระจายให้ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่และส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น

 

สั่งเร่งใช้ข้อได้เปรียบจากการค้าเสรีเพื่อเพิ่มการส่งออก


"ต่อจากนั้นลงพื้นที่พบสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มน้ำท่าทอง จำกัด อำเภอกาญจนดิษฐ์ที่เป็นแหล่งผลิตกุ้งขาวแวนนาไม มีสมาชิก 418 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงกุ้งกว่า 8,345 ไร่ ในปี 2561 สหกรณ์รวบรวมผลผลิตได้ 400 ตันมูลค่า 86.8 ล้านบาท จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกาญี่ปุ่น แคนนาดา สหภาพยุโรปปัจจุบันสหกรณ์มีแผนสร้างห้องเย็นเพื่อแปรรูปเป็นสินค้ากุ้งพรีเมี่ยมและเพื่อลดต้นทุนการผลิต เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศโดยสหกรณ์ได้ไปแสดงโชว์สินค้าที่จีนและญี่ปุ่นมาแล้วซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีแผนส่งออกหลังสร้างห้องเย็นเสร็จทั้งนี้จะเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้ากุ้งและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและลดปัญหาราคาสินค้ากุ้งตกต่ำเมื่อเทียบจากปีที่แล้วที่ลดลง 15-20 บาทต่อกิโลกรัมในขณะเดียวกันก็เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย" นางอรมน กล่าว

logoline