"ปิยบุตร"​ ลั่น! ผมไม่ต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งคนเก่าและคนใหม่

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นพิเศษ เพื่ออภิปรายในญัตติซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามที่ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านใช้สิทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ซึ่งได้ชี้แจงถึงที่มาของตั้งประเด็นดังกล่าว ว่า ตนฐานะเป็นผู้ที่อภิปรายเปิดประเด็นการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ครบถ้วนและอาจมีปัญหาต่อการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ระบุไม่ให้ตนพูดและไม่มีทราบรายละเอียด พร้อมระบุให้ตนรับผิดชอบต่อคำพูดดังกล่าว ทั้งนี้ตนพร้อมรับผิดชอบในสิ่งที่ตนพูด แต่ไม่ทราบว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำหรือไม่ อย่างไรก็ตามเจตนาที่ตนสอบถามในวันดังกล่าว ไม่มีเจตนาล้มรัฐบาล แต่ต้องการตั้งประเด็นเพื่อให้แก้ไข ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ส.ส.

นายปิยบุตร อภิปรายในเนื้อหาว่าการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนของพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นอาการของโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ เพราะมาตราใดที่ตีกรอบการใช้อำนาจ นายกฯ ไม่สนใจที่จะปฏิบัติใช้ ยกเว้นบางประเด็นที่ต้องการจะใช้จึงเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ เช่น การนิรโทษกรรม, การมีอำนาจพิเศษ ตามมาตรา 44 ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ทั้งนี้ตนต้องการชี้ให้ นายกฯ เห็นว่ารัฐธรรมนูญไม่ใช่เครื่องมือตามระบอบที่นายกฯ ต้องการเท่านั้น และไม่มีสิทธิที่จะยกเว้นบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มีสังคมตั้งฉายาให้นายกฯด้วยว่า เป็นบิดาของข้อยกเว้น ทำให้กลายเป็นโรคที่ตนขอเรียกว่าโรคไม่รับผิดชอบในฐานะผู้นำ และไม่แสดงความรับผิดชอบเมื่อทราบว่าได้กล่าวถ้อยคำที่ครบตามรัฐธรรมนูญมาตราท161 ถือเป็นความผิด
"วันที่ 16 กรกฏาคม นายกฯ กล่าวถ้อยคำไม่ครบ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าไม่ได้มาจากเอกสารที่สำนักงานเลขาธิการนายกฯ เตรียมไว้ เหมือนกับ 5 ครั้งที่นายกฯ นำครม. กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตน ตั้งแต่ปี 2557 แต่ครั้งล่าสุด นายกฯ หยิบมาจากกระเป๋าเสื้อด้านข้าง อย่างไรก็ตามประเด็นที่เกิดขึ้นมีความเห็นที่มีผู้ระบุว่าข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ว่าการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้วเสร็จ ครบหรือไม่ครบไม่เป็นไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผลกระทบที่อาจตามมาได้ว่า นายกฯ คนถัดไป รัฐมนตรีคณะต่อไปอาจจะมีบรรทัดฐานว่าจะกล่าวคำปฏิญาณตนอย่างไรก็ได้ ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้อง" นายปิยบุตร อภิปราย

นายปิยบุตร อภิปรายซ้กถามใน 4 ประเด็นด้วยว่า 1. กระดาษที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านข้าง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ใช้ในวันถวายสัตย์ปฏิญาณตน นายกฯเตรียมมาอ่านเองใช่หรือไม่และทำไมไม่อ่านสิ่งที่เจ้าหน้าที่เตรียม 2.กรณีที่มีรัฐมนตรีลาออก และนายกฯ ต้องนำรัฐมนตรีคนใหม่เข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณอีกครั้งจะอ่านถ้อยคำอย่างไร, 3.หากนายกฯ คนต่อไป รัฐมนตรีคนต่อไป มีโอกาส กล่าวถ้อยคำไม่ครบถ้วน นายกฯ มองว่าทำได้หรือไม่และ 4. ถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ฐานะรองเลขาธิการนายกฯ 2 ปี, เป็นเลขาธิการนายกฯ 9 ปี และรองนายกฯรวมเกือบ 10 ปี ทำงานในทำเนียบรัฐบาล เกือบ 2 ทศวรรษ ทำงานกับครม. 11 ชุด และนายกฯ 8 คน มีโอกาสเข้าร่วมการถวายสัตย์ปฏิญาณตนหลายครั้งเคยเห็นนายกฯ คนใดที่ทำแบบพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่
"ผมขอเรียกร้องให้อาจารย์วิษณุ ออกจากเรือแป๊ะ เพื่อมาอยู่ในความยุติธรรม ทั้งนี้ผมไม่ต้องการพล.อ.ประยุทธ์คนเก่าหรือคนใหม่ ทั้งนี้นายกฯต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง"นายปิยบุตร อภิปรายสรุป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายปิยบุตรอภิปราย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ประท้วงเป็นระยะ กรณีอภิปรายนอกประเด็นที่ยื่นญัตติ ทั้งนี้นายชวน ชี้แจงว่าเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย ส่วนนายกฯ จะชี้แจงเวลาใดสามารถทำได้
ปิยบุตร แสงกนกกุล สรุปทิ้งท้าย พูดถึงวิษณุว่า เป็นอาจารย์ทางตำรา อ่านหนังสือของวิษณุทุกเล่ม นิยายก็อ่าน กำลังรอนิยายเล่มใหม่ "ลงเรือแป๊ะ" / อยากให้เป็น อ.วิษณุ ปูชนียบุคคลคนเดิม หยุดให้ความเห็นช่วยเหลือรัฐบาล และพลเอกประยุทธ์ ผมไม่ต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งคนเก่าและคนใหม่ ไม่ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อไป เพื่อรักษารัฐธรรมนูญเอาไว้ ขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี