พร้อมข้อมูลโดยละเอียดได้จากภาพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. โดยพบว่า ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ น้ำในแม่น้ำมูลลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อวานนี้ (15 กย) 12 ซม. เหลือ 11 อำเภอที่ยังมีน้ำท่วม ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ อ.พิบูลมังสาหาร และ อ.โขงเจียม แล้ว 160 เครื่อง กรมชลประทานติดตั้งเพิ่มอีก 100 เครื่องที่สะพานโขงเจียม
นอกจากนี้ยังมี 5 อำเภอ ที่ต้องเฝ้าระวัง คือ อ.เมือง อุบลราชธานี อ.วารินชำราบ อ.สว่างวีระวงศ์ อ.ตาลสุม อ.พิบูลมังสาหาร มีจุดอพยพ 6 อำเภอ 61 จุด ประชาชน 22,916 คน คือ อ.เมืองอุบลราชธานี 29 จุด อ.วารินชำราบ 16 จุด อ.พิบูลมังสาหาร 12 จุด อ.ม่วงสามสิบ 2 จุด อ.สว่างวีระวงศ์ 1 จุด และ อ.ตระการพืชผล 1 จุด
น.ส.วทันยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชน กำลังระดมทุกสรรพกำลังในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งการอพยพ การจัดหาที่พักพิงชั่วคราว อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค ที่ยังหลั่งไหลลงไปไม่ขาดสาย ซึ่งในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.ของพรรคทั้งในและนอกพื้นที่ก็เป็นตัวกลางในการรับของบริจาคเพื่อนำไปมอบให้ หรือ ลงพื้นที่ไปให้กำลังใจ
ขณะที่รัฐบาลดำเนินการผ่านกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะการลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น รวมถึงพิจารณมาตรการต่างๆช่วยเหลือหลังน้ำลด ดังนั้นยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลไม่ได้ทิ้งพี่น้องประชาชน และล่าสุด รัฐบาลได้เปิดบัญชี "ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม" และร่วมบริจาคเงินสมทบเข้ากองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 สามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-2834318-24
CR.เดียร์ วทันยา วงศ์โอภาษี