โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่พบประชาชนบริเวณชุมชนบ้านโคกหล่อ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างท่าอากาศยานตรังบริเวณหัวทางวิ่ง 26 เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบด้านเสียง และการแตกร้าวของบ้านเรือน ซึ่งมีผู้แทนชุมชนและตัวแทนชาวบ้านเข้าพบ รวมถึงได้เข้าเยี่ยมบ้านเรือนของประชาชนในชุมชน
ซึ่งจากการลงพื้นที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้กล่าวว่า เรื่องการประเมินทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ ผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เสียง อากาศ ฝุ่นละออง ทางกรมท่าอากาศยานยืนยันว่าไม่เกิดผลกระทบในทางลบ แต่จะรับพิจารณาในเรื่องผลกระทบทางสังคม ที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยจะเตรียมเรื่องเสนอเข้าคณะกรรมมาธิการต่อไป พร้อมฝากข้อคิดว่าในระยะยาวการขยายสนามบินจะสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนในพื้นที่อย่างยั่งยืนในส่วนของกรมท่าอากาศยานเปิดเผยว่า จากการที่ประชาชนในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ได้มีการยื่นหนังสือร้องเรียนมาที่ท่าอากาศยานตรัง ให้ช่วยแก้ไขปัญหา กรณีได้รับผลกระทบด้านเสียงและความสั่นสะเทือน จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของท่าอากาศยานตรัง จนทำให้บ้านเรือนมีสภาพแตกร้าว ฝ้าเพดานทรุด และเสียงของเครื่องบินรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน นั้นกรมท่าอากาศยานจึงได้ดำเนินโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมบริเวณพื้นที่ชุมชนโดยรอบท่าอากาศยานตรัง พบว่า พื้นที่ชุมชนดังกล่าว ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเสียงและแรงสั่นสะเทือนของเครื่องบิน ตามผลการตรวจวัดที่ทีมศึกษาสิ่งแวดล้อมเข้ามาทำการตรวจวัด เมื่อวันที่ 8 - 9 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กรมท่าอากาศยานได้มีการรับฟังและศึกษาผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบท่าอากาศยาน และพร้อมน้อมรับฟังเสียงจากหน่วยงานและชุมชนรอบด้าน เพื่อนำมาใช้วางแผนพัฒนาท่าอากาศยานต่อไปในอนาคต โดยการพัฒนาศักยภาพของท่าอากาศยานต้องควบคู่ไปกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม และการยอมรับจากชุมชนได้ด้วยเช่นกัน