svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา-กกท.-สมาคมฯ ตรวจสนามราชมังฯ เตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพศึกชิงแชมป์เอเชีย U23

16 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันที่ 16 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย และ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการปรับปรุงสภาพสนามราชมังคลากีฬาสถาน ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของเอเอฟซี ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนมกราคม 2563

การตรวจความพร้อมครั้งนี้ นำโดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ พล.ต.อ. ดร.สมยศพุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯรวมถึงฝ่ายจัดการแข่งขันและเจ้าหน้าที่ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

หลังการตรวจความพร้อมตามจุดต่างๆของสนามราชมังคลากีฬาสถานเสร็จสิ้นได้มีการแถลงข่าวร่วมกันเพื่อยืนยันความพร้อมโดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า

"จากการที่วันนี้ผมและผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯได้ทำการสำรวจและดูความพร้อมของสนามราชมังคลากีฬาสถาน ก็ลงความเห็นว่าเรามั่นใจว่าจะสามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายได้"

"ผมเชื่อว่าเรามีความพร้อมที่จะสามารถปรับปรุงสนามได้ทันในช่วงเดือนธันวาคม ตามที่เอเอฟซี กำหนดไว้ ทั้งในส่วนของสนามแข่งขัน ตัวอาคารห้องพักนักกีฬาและห้องแถลงข่าวของสื่อมวลชน เรามีความพร้อมทุกอย่าง"

ด้าน ดร. ก้องศักด ยอดมณีผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า"วันนี้เราได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานเพื่อที่จะเช็คความพร้อมของสนามที่จะใช้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายที่จะมีการคัดเลือกทีมไปโอลิมปิก ในปี 2020ซึ่งในความพร้อมต่างๆ ผมก็ได้รายงานให้ท่านรัฐมนตรีรับทราบเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะสามารถดำเนินปรับปรุงสนามให้มีความพร้อมสำหรับการแข่งขันที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า"

ขณะที่ พล.ต.อ. ดร.สมยศพุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า "ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะ ที่ได้มาตรวจเยี่ยม สนามราชมังคลากีฬาสถาน เพื่อเป็นการตรวจสอบและเตรียมความพร้อมที่จะใช้สนามนี้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในเดือนมกราคม 2563"

"สืบเนื่องจากเอเอฟซี จะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบความคืบหน้าของสนามต่างๆที่จะใช้ในการแข่งขันรายการนี้ ในช่วงวันที่ 20-24 กันยายน 2562 ประกอบไปด้วย สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามติณสูลานนท์และ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วนสนาม สมโภช 700 ปีจังหวัดเชียงใหม่ จากรายงานล่าสุดได้มีการยืนยันว่าน่าจะปรับปรุงสนามได้ไม่ทันทางสมาคมก็จะมองไปที่สนามของสโมสรที่มีความพร้อม"

"หลังจากที่เราได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ทราบ และมีความปรารถนาดี ที่จะใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพปรับปรุงสนามของรัฐ 3 สนาม คือ สนามราชมังคลากีฬาสถานสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา และสนามสมโภช 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้สนามของรัฐบาลมีมาตรฐานเป็นสากลเพราะหากสนามเราไม่ได้มาตรฐานเราก็จะไม่สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลรายการของเอเอฟซีได้"

"ก่อนหน้านี้เอเอฟซีก็ได้ตรวจสนามรอบแรกไปแล้ว และได้กำหนดเงื่อนไขมาว่าเราจะต้องปรับปรุงสนามให้อยู่ในข้อกำหนดของเอเอฟซี เมื่อเขามาตรวจเขาจะดูว่าเราได้ปรับปรุงแก้ไขคืบหน้ามากน้อยเพียงใด และทันกำหนดส่งมอบ ในวันที่ 20 ธันวาคม หรือไม่ ซึ่งตอนนี้เราเหลือเวลาอีกแค่ 3เดือนเท่านั้น"

"หลังจากที่ได้เดินดูสนามราชมังคลากีฬาสถานก็ได้รับการยืนยันจากผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย แล้วว่า จะสามารถปรับปรุงสนามได้ตามกำหนดก็ขอขอบคุณท่านผู้ว่าฯกกท. ไว้ ณ โอกาสนี้ ซึ่งทางสมาคมฯ กังวลว่า 3 เดือน เราจะปรับปรุงได้มากน้อยแค่ไหน ก็ได้ข้อสรุป จากท่านรัฐมนตรีว่าอะไรที่ เป็นข้อกำหนดของเอเอฟซีบังคับก็ต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงส่วนที่ไม่ได้มีข้อกำหนดหากอยากปรับปรุง นั้น จะทำเลย หรือทำทีหลังก็ได้ เช่นทางเอเอฟซี ไม่ได้พูดถึงเรื่องเก้าอี้ เรื่องพื้นหญ้าของสนามเพราะฉะนั้นเราอาจจะปรับปรุงส่วนที่เอเอฟซีกำหนดก่อน"

"นอกจากนี้เราได้พูดและหารือถึงการปรับเปลี่ยนพื้นหญ้าภายในสนามราชมังคลากีฬาสถานซึ่งทางเอเอฟซี ไม่ได้บอกเป็นข้อกำหนดหากเราจะลงมือทำมันอาจจะเสี่ยงเกินไปที่จะเสร็จไม่ทันสำหรับการแข่งขันหลังจากที่รัฐมนตรี ได้เห็นทางกายภาพ และให้คำแนะนำแล้ว น่าจะทันเมื่อทางผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ยืนยันว่าทัน เราก็ต้องเชื่อมั่นและให้เกียรติผมเชื่อว่า ท่านพูดแล้ว ท่านทำแน่"

"ก็ต้องขอความกรุณาจากรัฐมนตรี ให้สนับสนุน ให้ทุกอย่างเรียบร้อย ผมว่าทุกคนก็อยากให้เป็นเช่นนั้นทุกอย่างคือการทำงานร่วมกันระหว่าง การกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในโอกาสนี้ ขออนุญาตมอบเอกสาร ข้อกำหนดที่เอเอฟซีกำหนดไว้ เพื่อท่านและทีมงานจะได้ศึกษาไว้ว่าเอเอฟซี กำหนดไว้เป็นอย่างไร

"นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ก็ขอมอบไทม์ไลน์ ที่สมาคมฯ ทำ ตั้งแต่ช่วงแรก ที่สมาคมฯ ส่งจดหมายเสนอกับเอเอฟซี เพื่อขอเป็นเจ้าภาพ ในรายการนี้ จนถึงตอนนี้เผื่อท่านคิดว่าควรมีปรับเปลี่ยน สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นใจ กกท. คือ ระเบียบข้อบังคับต่างๆทำให้เกิดความไม่คล่องตัว อยากจะฝากบอกท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าเราเข้าใจที่ งบประมาณต่างๆ ของกกท. ในการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานขึ้นอยู่กับหลายส่วน แล้วงบประมาณตรงนี้ ถูกแยกออกเป็นหลายกลุ่ม เช่นการปรับปรุงอาคารสถานที่ และอีกงบประมาณหนึ่งที่สำคัญ คือ ประเภทวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการจัดการแข่งขัน โดยรอบอื่นๆ"

"จากการที่ได้ทำงานร่วมกันกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทยทางส่วนของอาคารสถานที่ กกท. จะเป็นผู้ดำเนินการจัดงบประมาณ ส่วนวัสดุอุปกรณ์สำนักงาน กกท. ได้ให้สมาคมฯ เป็นแม่บ้านในการเสนองบประมาณ ผมทราบว่า กกท.ไม่สามารถจัดสรรงบประมาณตรงนี้ได้ ก็ต้องฝากท่านผู้ว่าฯ กกท. ถ้าเราดูแต่กายภาพแต่ลืมไปดูตรงนี้ และถึงเวลาไม่มีงบประมาณจัดซื้อ จัดจ้าง สมาคมฯพร้อมสนับสนุนเต็มที่ แต่สมาคมฯ ก็ต้องได้รับคำบอกกล่าวและคำ แนะนำเพราะไม่งั้นมันจะสะเปะสะปะ และเสียเวลา ก็ต้องขอกราบขอบคุณท่านรัฐมนตรีท่านผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะทำงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงทุกท่านที่ให้ความสำคัญ วันนี้ทุกท่านมาตรวจเยี่ยมถึงที่แล้วถือว่าเป็นความกรุณา สมาคมฯ ก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี พวกเราเชื่อว่ากกท. จะทำทุกอย่างได้เรียบร้อย หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยเราก็จะใช้สนามนี้เป็นสนามหลักในการจัดการแข่งขันรายการนี้ต่อไป"

"สำหรับสมาคมฯเราจะหาสนามอื่นมาแทนที่ในส่วนของ สนามสมโภช 700 ปีจังหวัดเชียงใหม่ ที่ปรับปรุงไม่ทัน เพื่อให้เอเอฟซีตรวจ ต้องดูความจุ, ไฟส่องสว่าง 1,800 LUX, ห้องแต่งตัวนักกีฬาต้องมี 4 ห้อง, สนามซ้อม, ที่พักโรงแรม4-5 ดาว ต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของเอเอฟซีโดยสนามที่มีโอกาสแทนสนามสมโภช 700 ปีฯ คือ 1.สนามลีโอ สเตเดียม, 2.สนามช้างอารีน่า จ.บุรีรัมย์,3.สนามเอสซีจี สเตเดียม, 4.สนามชลบุรีสเตเดียม, 5.สนามสิงห์ สเตเดียม จ.เชียงราย, 6.สนามสุพรรณบุรี และ 7.สนามมิตรผล สเตเดียม จ.ราชบุรีซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมและเอเอฟซีพิจารณา ขณะเดียวกันตอนนี้ยังรอหนังสือยืนยันความพร้อมจาก สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา ในการเป็น 1 ใน 4 สนามสำหรับจัดการแข่งขันในรายการนี้ด้วย

โดยหลังจากนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตบอลของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) จะเดินทางมาตรวจสอบความพร้อมของสนามราชมังคลากีฬาสถานรวมถึง สนามอื่นๆ ในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2562และจะมีการจัดงานจับสลากแบ่งสายการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ โรงแรม สวิสโซเทล รัชดา ในวันที่ 26กันยายน 2562 ต่อไป

logoline