svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ธรรมนัส" พ้น ครม. ยาก.. เป็น รมต.ต่อ ก็ไม่ง่าย!

16 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เป็นเรื่องยากที่ บิ๊กตู่ จะปรับ ร.อ.ธรรมนัส พ้น ครม.แต่ก็ไม่ง่ายเช่นเดียวกันกับการที่จะเป็นรัฐมนตรีนับจากนี้ เพราะจะเจอกับความท้าทายจากฝ่ายตรงข้ามไม่จบสิ้น

หลังการเลือกตั้งเป็นต้นมา ชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ก็ค่อยๆ ปรากฎชัดถึงบทบาทการเป็นมือดีลมาตั้งแต่นั้น ทั้งในฐานะคนเจรจาพรรคร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาล การรวบรวมเสียงพรรคเล็กที่กระจัดกระจายเอาไว้ด้วยกัน
บทบาทตรงนี้ส่งให้เขากลายเป็นคีย์แมนคนสำคัญ ด้วยความไว้วางใจจากผู้ใหญ่คนสำคัญในพรรคและรัฐบาลนั่นเอง
ร.อ.ธรรมนัส ถือเป็นหนึ่งในขุนพลระดับสายตรงของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยมีคนเปรยๆ เอาไว้ว่า 3ป. 3คน คือ บิ๊กป้อม บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้บุคลิกส่วนตัวแตกต่างกัน แต่อะไรบางอย่างทำให้รู้สึกว่าทั้งสามคนเหมือนเป็นคนคนเดียวกัน อาจเป็นเพราะความเหนียวแน่นของสามพี่น้องที่มีมายาวนาน
ความใกล้ชิดของ ร.อ.ธรรมนัส กับ นายป้อม ย่อมถูกเข้าใจต่อไปได้ว่า ต้องใกล้ชิดกับ นายตู่ ไปด้วยโดยปริยาย
มีการวิเคราะห์ว่า ร.อ.ธรรมนัส คือคนที่ รัฐบาลประยุทธ์ จำเป็นต้องมี ด้วยเหตุผลคือ 1.เอาไว้เป็นกันชนรัฐบาล 2.เอาไว้เป็นคนเดินเกมต่อรอง เป็นคนประสานพรรคร่วมด้วยวิธีการในแบบฉบับของ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีต้นทุนบางอย่างค่อนข้างสูง 3. ใช้ความใจใหญ่ ที่เป็นบุคลิกส่วนตัวของเขาให้เป็นประโยชน์ เพื่อดูแลพรรคร่วม และเพื่อให้พรรคร่วมและพรรคฝ่ายค้านเกรงใจ เพราะผู้ใหญ่เองก็คงรู้ดีว่า คำว่า "คนละพรรค แต่พวกเดียวกัน" ใช้ได้กับ ร.อ.ธรรมนัส ที่มีคอนเน็กชั่นกว้างขวาง
ดังนั้น การจะเจาะยางให้ รัฐบาลประยุทธ์ ออกอาการเป๋ ด่านแรกฝ่ายตรงข้ามก็อาจจะต้องทุบกันชนให้หลุดไปก่อน สเต็ปต่อไปจะได้เข้าใกล้คนที่เป็นหัวใจของรัฐบาลต่อไป
ในช่วงนี้ที่ ร.อ.ธรรมนัส กำลังเผชิญกับการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งกรณีที่สื่อต่างชาติอ้างว่าเขาเคยติดคุก 4 ปีในข้อหาขนเฮโรอีนเข้าออสเตรเลีย หรือกรณีวุฒิการศึกษาปริญญาเอกที่กำลังถูกจับผิดกันยกใหญ่นั้น ย่อมสะเทือนถึงเสถียรของรัฐบาล มากกว่าแค่เรื่องภาพลักษณ์
การที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าตัวเองเป็น "เส้นเลือดใหญ่ของรัฐบาล" ก็ดี หรือที่ระบุว่า "โค่นผมได้ ก็เท่ากับล้มรัฐบาลได้" ก็ดีนั้น นัยยะอาจต้องการส่งถึงผู้ใหญ่ในรัฐบาล ที่ ร.อ.ธรรมนัส เคารพให้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังรุมเร้าเขาอยู่หรือไม่ และเป็นการบอกอ้อมๆ หรือไม่ว่า ข้อมูลชั้นความลับ หรือเรื่องที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งผู้ใหญ่ในรัฐบาลเท่านั้นที่รู้ ร.อ.ธรรมนัส ก็รู้เช่นเดียวกัน จึงเปรียบตัวเองและฉายภาพให้เห็นว่า ถ้าเขาล้มไปคนหนึ่ง แล้วจะเกิดอะไรตามมา
การที่พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ก่อนแต่งตั้ง ร.อ.ธรรมนัส มีการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว แต่นั่นอาจยังไม่พอ ในภาวะที่ปฏิกิริยาสังคมตัดสินไปแล้วว่าเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ปรากฎการณ์คู่ขนาน ยังมีความพยายามกระทุ้ง พล.อ.ประยุทธ์ ให้รับผิดชอบการที่แต่งตั้งคนที่มีข้อครหาเป็นรัฐมนตรีอีกด้วย
ตอนนี้ถือว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ร.อ.ธรรมนัส สังคมกำลังจับจ้องจับผิด ลุกลามบานปลาย ข้อมูลต่างๆ ถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ
พล.อ.ประยุทธ์ คงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้า- คายไม่ออก กับปัญหานี้ เพราะถ้าเลือกเก็บ ร.อ.ธรรมนัส ไว้ ก็จะเป็นหมู่บ้านกระสุนตกต่อไป หรือหากปรับพ้น ครม. ก็เท่ากับว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นไปตามสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามตีตรา จนต้องยอมจำนน แต่ดูจากที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่คนที่จะปรับ ครม. เพื่อหนีปัญหาสักเท่าใด เหมือนกระท้อนตามที่เคยบอก ยิ่งทุบยิ่งหวาน
อีกอย่างที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ทุ่มสรรพกำลังเต็มที่ช่วย พลังประชารัฐ ในการเลือกตั้ง สไตล์ บิ๊กตู่ คงไม่ขับไสไล่ส่งกันง่ายๆ
หรือพูดง่ายๆ ว่า เป็นเรื่องยาก ที่ บิ๊กตู่ จะปรับ ร.อ.ธรรมนัส พ้น ครม. แต่ก็ไม่ง่ายเช่นเดียวกันกับการที่ ร.อ.ธรรมนัส จะเป็นรัฐมนตรีนับจากนี้ เพราะจะเจอกับความท้าทายจากฝ่ายตรงข้ามไม่จบสิ้น ทั้งการขุดคุ้ยเรื่องเก่าขึ้นมา การอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา หรือแม้แต่การหยิบยกเป็นประเด็นเคลื่อนไหวของมวลชนบนถนน แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่แน่ว่า คาร์แร็กเตอร์ของ "ร.อ.ธรรมนัส" อาจจะชอบอะไรท้าทายแบบนั้นก็ได้

logoline