นอกจากนั้นยังมีปัญหา "พนักงานมหาวิทยาลัย" หรือ"พ.ม." ที่บรรจุแทนตำแหน่งข้าราชการมานานร่วม 20 ปีและปัจจุบันมีมากกว่า 1 แสนคนทั้งสายผู้สอน และสายสนับสนุน /แต่พวกเขากลับได้เงินเดือนและค่าตอบแทนต่ำกว่าที่มติ ครม.กำหนดเอาไว้ ขณะเดียวกันอาจารย์ในกลุ่ม"ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา"ก็มีปัญหาเหลื่อมล้ำเรื่องเงินเดือน /เพราะอัตราเงินเดือนต่ำกว่าข้าราชการครูในสังกัดอื่นๆ ของกระทรวงศึกษาฯด้วย
"ปัญหาที่ผ่านมาตลอด 3 เดือนก็คือความเสมอภาคในการรับฟังข้อมูลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯมันไม่มีความสมมาตรของข้อมูล เพราะท่านรัฐมนตรีฟังแต่ข้อมูลข้างเดียวเนื่องจากเวลาผู้บริหารกระทรวงฯ จะทำการรับฟังข้อมูลอะไรก็จะเน้นไปแต่กลุ่มอธิการบดีซึ่งกลุ่มนี้จะมีที่ประชุมของเขา คือ ทปอ. (ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย)ทั้งๆ ที่กลุ่มผู้บริหารกลุ่มนี้มีปริมาณไม่ถึง 1เปอร์เซนต์ของบุคลากรมหาวิทยาลัยทั้งหมดเกือบ 2 แสนคน"
"ที่ผ่านมาตลอด 3 เดือน พวกเราไม่เคยถูกเชิญหรือรับฟังความคิดเห็นพวกเราเลยแต่กลับไปฟังข้อมูลเพียงแค่ปีกเดียว คล้ายกับตราชั่งมันเอียงซึ่งทางสภาคณาจารย์และข้าราชการฯ ก็เริ่มพูดกันว่ากระทรวงอุดมศึกษาฯเกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองกลุ่มอธิการบดีเพียงแค่ไม่ถึง 1เปอร์เซ็นต์ แล้วไม่สนใจบุคลากรอีกกว่า 2 แสนคนเลย มีข้อครหาว่า กระทรวงกระทรวงอุดมศึกษาฯกำลังถูกครอบงำหรือไม่ ซึ่งผมมองว่าหากยังเป็นแบบนี้จะทำให้การตัดสินใจเชิงนโยบายจะผิดอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะการข้อมูลไม่รอบด้าน"
"ตลอดระยะเวลากว่า19 ปีที่ผ่านมา พนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ไม่มีกฎหมายหรือพระราชบัญญัติใดๆเข้ามาดูแลอย่างชัดเจนเลยก็ขอให้ทางกระทรวงกลับมาช่วยแก้ไขปัญหาที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรมหากมีนโยบายตั้งกระทรวงใหม่ ก็เหมือนกับการเปลี่ยนบ้านใหม่ แต่ใต้บ้านใต้พรมกลับเต็มไปด้วยขยะ ก็ต้องแก้ไขปัญหาให้จบสิ้นไป"
หลังจากนี้คาดว่าภารกิจของกระทรวงอุดมศึกษาฯจะถููกตรวจสอบมากขึ้นจากหลายฝ่าย เพราะปัญหาธรรมาภิบาลวิกฤติจริงๆอย่างเมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็เพิ่งมีการยื่นกระทู้สดจาก ส.ส. ถามรัฐมนตรีอุดมศึกษาเกี่ยวกับปัญหาธรรมาภิบาลของมหาวิทยาลัยนครพนม และนับแต่นี้น่าจะมีความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆตามมาอีก