svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ที่มา "รองเท้าส้นสูง"

14 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รองเท้าส้นสูงเป็นรองเท้าที่ช่วยทำให้หญิงสาวผู้สวมใส่ดูขาเรียวยาวขึ้นมั่นใจขึ้น เรียกได้ว่ากลายเป็นหนึ่งในไอเท็มชิ้นสำคัญของหญิงสาวเกือบทุกคนทั่วโลก ย้อนกลับไปอดีตกาลมีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าเทรนด์การสวมใส่รองเท้าส้นสูงในยุโรป มาจากกลุ่มคนขี่ม้า ที่เดินทางจากเปอร์เซีย เข้ามายังดินแดนยุโรป เป็นครั้งแรก

Elizabeth Semmelhack ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์รองเท้าได้กล่าวว่า บริเวณส้นรองเท้าที่ถูกเสริมขึ้นในยุคแรกนั้น ช่วยทำให้เท้าของคนขี่ม้าพอดีกับโกลนมากขึ้น และยังช่วยทำให้พวกเขายิงธนูได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย

ที่มา "รองเท้าส้นสูง"


ในช่วงศตวรรษที่ 16 รองเท้าส้นสูงถูกทำให้กลายเป็นสัญลักษณ์เครื่องแต่งกายอย่างหนึ่งของคนชนชั้นสูงในยุคนั้นโดยมาจากพื้นฐานแนวคิดที่ว่า ยิ่งใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับการทำกิจกรรม ยิ่งแสดงให้เห็นว่าคนนั้นมีฐานะมั่งคั่ง
ภาพวาดของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กับการสวมใส่รองเท้าส้นสูง

ที่มา "รองเท้าส้นสูง"


ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 17 รองเท้าส้นสูงกลับได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้หญิงที่ขายบริการ ในยุคนั้นผู้หญิงเริ่มที่จะปรับเปลี่ยนเทรนด์การแต่งตัวให้ดูเข้ากับผู้ชายมากยิ่งขึ้น เช่นการตัดผม การเอาหมวกของผู้ชายมาสวมใส่ และการสวมรองเท้าส้นสูง

หลังจากที่เทรนด์รองเท้าส้นสูงเริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มประชากรชนชั้นล่าง ทางฝั่งของกลุ่มชนชั้นสูงก็ได้มีการสร้างความแตกต่างโดยเลือกที่จะทำส้นของรองเท้าให้สูงมากกว่าเดิม เพื่อแสดงถึงอำนาจทางการเงินที่มั่งคั่งกว่า
ต่อมามีการแบ่งประเภทของส้นสูงไว้อย่างชัดเจน โดยรองเท้าที่มีส้นเล็กเรียวจะเป็นสำหรับผู้หญิง ส่วนรองเท้าที่มีส้นหนากว่าจะถูกใช้สำหรับผู้ชายฝั่งซ้ายของผู้หญิง ฝั่งขวาของผู้ชาย

ที่มา "รองเท้าส้นสูง"

เมื่อกาลเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนแปลง รองเท้าส้นสูงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงมากขึ้น โดยในช่วงยุคเรืองปัญญา (หลังยุคมืด) แฟชั่นส้นสูงในกลุ่มผู้ชายดูเหมือนจะได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ เหตุผลหนึ่งก็เพราะมีการออกแบบรองเท้าที่สวมใส่แล้วสบายกว่า และกะทัดรัดกว่าส้นสูงรองเท้าส้นสูงจากยุค 1800s

ที่มา "รองเท้าส้นสูง"

อันที่จริงแล้วส้นสูงไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้หญิงสาวดูเซ็กส์ซี่ขึ้นแต่อย่างใด จนกระทั่งมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ค่านิยมเกี่ยวกับรองเท้าส้นสูงก็ได้เปลี่ยนไปโดยมีช่างภาพสายนู๊ดคนหนึ่ง ได้ตีพิมพ์โปสการ์ดของหญิงสาวนุ่งน้อยห่มน้อย พร้อมกับใส่รองเท้าส้นสูงอีกครั้ง เรียกได้ว่าหลังจากนั้น กระแสความนิยมรองเท้าส้นสูงก็กลับมาขายดิบขายดี หญิงสาวต่างพากันไปหามาใส่กันให้วุ่นหลังจากนั้นจึงได้มีการผลิตรองเท้าส้นสูงออกมาวางจำหน่าย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเมื่อช่วงปี 1950s รองเท้าแบบส้นสูงแหลมปรี๊ด ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นครั้งแรกขอบคุณที่มาhttps://www.catdumb.com/high-heels-history-420/และคลิปวีดีโอ

logoline