วันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดไต่สวนพยานคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ยังเป็นการไต่สวนพยานฝั่งโจทก์ คือฝั่งอัยการสูงสุด แต่ปรากฏว่า นายอริสมันต์ อดีตแกนนำ นปช. จำเลยที่ 10 ไม่ได้เดินทางมาศาลเพื่อร่วมกระบวนพิจารณา โดยทนายความก็ไม่สามารถติดต่อจำเลยได้ ศาลเห็นว่าจำเลยมีพฤติการณ์น่าจะหลบหนี จึงให้ออกหมายจับเพื่อนำตัวกลับมาสู่กระบวนพิจารณาต่อไป พร้อมสั่งปรับนายประกันเต็มจำนวน วงเงินประกัน 5 ล้านบาท
นายธำรงค์ หลักแดน ทนายความของนายอริสมันต์ บอกว่า ตนไม่ทราบว่านายอริสมันต์ไปไหน เพราะวันนี้ไม่สามารถติดต่อและตามตัวนายอริสมันต์ให้มาศาลได้ จึงถูกออกหมายจับและปรับนายประกัน แต่กระบวนพิจารณาคดีบ้านเอื้ออาทรในส่วนของนายอริสมันต์ยังถือว่าไม่ได้รับผลกระทบ เพราะศาลไม่ได้มีคำสั่งจำหน่ายคดี หรือพักพิจารณาคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากตามกฎหมายใหม่ให้อำนาจศาลดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย หรือไต่สวนลับหลังจำเลยได้ ฉะนั้นตนก็จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทนายความเพื่อรักษาสิทธิ์ของนายอริสมันต์ในการต่อสู้คดีต่อ
สำหรับคดีนี้ นับเป็นคดีที่ 2 แล้วที่นายอริสมันต์ไม่ยอมไปศาล โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธที่ 11 กันยายน นายอริสมันต์ก็ไม่ได้เดินทางไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีบุกล้มการประชุมอาเซียน ทำให้ถูกออกหมายจับอีกคดีหนึ่ง เพื่อให้มาฟังคำพิพาษาในวันที่ 31 ตุลาคม ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่านายอริสมันต์น่าจะหลบหนีคดีไปพร้อมกับเพื่อนอดีตแกนนำ นปช.อีกนับสิบคนที่น่าจะโดนศาลฎีกาพิพากษาจำคุกในคดีบุกล้มการประชุมอาเซียน