จนมุมขโมยจยย.หรู ไม่มีเอกสารยืนยัน

วันที่ 13 กันยายน พันตำรวจเอก เดชา พรมสุวรรณ์ ผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าพระ พันตำรวจโท บุญฤทธิ์ เสียงใส รองผู้กำกับการตำรวจนครบาลท่าพระ นำกำลังชุดจู่โจม จับกุมตัวนายปีใหม่ สมภัคดี อายุ 40 ปี ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลางมี รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ รอยัลเอ็นฟิลด์ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน1คัน หมวกนิรภัย ไม่มียี่ห้อ สีเหลืองจำนวน1ใบ โดยสามารถจับกุมได้บริเวณถนนรัชดาฯ-ท่าพระ ก่อนถึงหมู่บ้านรวมพล แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบโดยขับขี่มาตามถนนรัชดา-ท่าพระ จากแยกท่าพระ มุ่งหน้าสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่ เมื่อผ่านไปใกล้ถึงบริเวณก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้านรวมพล เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกตุเห็นชายต้องสงสัยทราบชื่อภายหลัง นายปีใหม่ สมภัคดี ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้องรอยัล เอ็นฟิลด์ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผ่านมามีพิรุธต้องสงสัย ว่าราคารถแพงเจ้าตัวไม่น่าใช่เจ้าของที่แท้จริง จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบ 

ซึ่งจากการสอบถามเบื้องต้นนายปีใหม่ ให้การวกไปวนมา โดยอ้างว่ารถคันดังกล่าวเป็นของน้าชายตนเองที่ไม่เอามาจากย่านบางแค แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมขอตรวจสอบเอกสารการครอบครอง รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว นายปีใหม่ก็ไม่มีมาแสดง และไม่ยอมติดต่อกับญาติที่อ้างว่าเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เชิญนายปีใหม่ พร้อมนำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มาทำการตรวจสอบที่ สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูลเลขตัวถังรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว พบว่ารถจักรยานยนต์ดันดังกล่าว มีนายทรัพย์สิน ธรรมรัชสุนทร เป็นผู้ครอบครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้

สอบถามไปที่ นายทรัพย์สิน จนได้ทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00น. ของวันที่12 กันยายน นายทรัพย์สินได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาจอดไว้ที่บริเวณหน้าบ้านพัก จากนั้นได้เข้ามานอนพักผ่อนในบ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลท่าพระ โทรศัพท์ไปสอบถามเรื่องรถ จึงได้ตรวจสอบ และทราบว่า รถจักรยานยนต์ของตนเอง มูลค่ากว่า 220,000 บาท ได้สูญหายไปจากบริเวณที่จอดไว้ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ ที่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ เมื่อมาถึงพบว่า เป็นรถจัรกยานยนต์ของตนเอง ที่ถูกคนร้ายลักเอามาจริง

จากการสอบสวน นายปีใหม่ ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง เดินผ่านมาหน้าบ้านผู้เสียหาย พบรถจอดไว้เสียบกุญแจคาไว้ เลยขโมยขับหนีมา จนมาถูกจับกุม โดยเจ้าตัวตั้งใจจะนำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร"ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดเนินคดีตามกฎหมายต่อไป