ด้านนายพชรพรรษ์ ประจวบลาภ เลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำรวจปี 2560 พบว่าเยาวชนไทยเล่นพนันมากถึง 3.64 ล้านคน เพศชายราว 2 ล้านคน เพศหญิง 1.6 ล้านคน ในจำนวนนี้ติดหนี้พนันมากถึง 9.53 หมื่นคน เป็นวงเงิน 335 ล้านบาท เฉลี่ยประมาณคนละ 3,500 บาท จากผลสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนกับการพนันออนไลน์ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ (มสช.) พบว่า 75.6% รู้จักพนันออนไลน์ และ 17.2% ไม่แน่ใจ 48.3% ไม่อยากเล่น รองลงมา 28.1% อยากเล่น เป็นบางครั้ง และ 23.6% อยากเล่นแน่ๆ นอกจากนี้ 67.8 % ไม่เคยเล่นพนันออนไลน์ รองลงมา 17% เคยเล่น และ 15.2% เคยเล่นเป็นบางครั้ง
นายพงศ์ธร จันทรัศมี ผู้จัดการศูนย์ข้อมูลนโยบายสาธารณะการลดปัญหาจาก การพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) กล่าวว่า สถานการณ์เยาวชนไทยและการพนันในช่วง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา การพนันออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโต เฉลี่ยในปี 2553-2557 อยู่ที่ 8% ต่อปี และคาดว่าช่วงปี 2558-2563 จะขยายตัวเฉลี่ยที่ 10.7% ซึ่งการจัดการทางกฎหมายยังมีข้อจำกัด คือต้องใช้พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ซึ่งไม่มีข้อกำหนดความปิดเกี่ยวกับเรื่องการพนันออนไลน์เอาไว้ ดังนั้น ต้องมีการออกกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และผลักดันการรู้เท่าทันพนันออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ
ขณะที่ พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ที่น่าจับตาต่อไปคือ อีสปอร์ต (e -Sport) หรือกิจกรรมการแข่งขันเกม (Game Competition) เพื่อร่วมชิงเงินรางวัล ของรางวัล หรือเพื่อเสริมความรู้สึกทางจิตใจ การพนันบนอี-สปอร์ตมีความเสี่ยงที่จะชักนำนักเล่นรายใหม่ ไปสู่การเล่นพนันเช่นเดียวกับการทายผลกีฬาในโลกออนไลน์ อีกทั้งผู้เล่นเกมส่วนมากเป็นเด็กและเยาวชนที่ยังไม่เท่าทัน และตระหนักรู้ว่าเกมหรืออี-สปอร์ตนั้น มีส่วนเชื่อมโยงกับธุรกิจ การพนันออนไลน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง