svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ท่องเที่ยว

"เมรุเผาศพ" สวยสุดในไทย!

14 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบเมรุเผาศพที่วัดแห่งหนึ่ง มีลวดลายที่วิจิตรงดงาม และมีสีทองเหลืองอร่ามทั้งเมรุ ซึ่งหาดูได้ยากและแตกต่างจากเมรุเผาศพของวัดทั่ว ๆ ไปเป็นอย่างมาก และแทบมองไม่ออกว่าเป็นเมรุเผาศพ เพราะเหลืองอร่ามไปทั้งหมด

ชาวบ้านที่ไปทำบุญส่วนใหญ่เมื่อไปถึงก็ต้องเดินไปชมความสวยงามของเมรุแห่งนี้ก่อนเป็นอันดับแรก โดยทราบว่าเมรุเผาศพดังกล่าว ตั้งอยู่ที่วัดสังข์มงคล บ.ขยอง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ ไปยังวัดดังกล่าว ก็พบกับชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังเดินชมความวิจิตรงดงามของเมรุเผาศพ และต่างถึงกับทึ่งกับลวดลายไทยต่างๆที่ประดับไปทั่วทั้งองค์เมรุเผาศพ อย่างวิจิตรงดงามและเหลืองอร่าม ตั้งอยู่ติดกับบรรยากาศกลางทุ่งนา โดย ตั้งแต่ฐานเมรุไปจนถึงยอดเมรุ บริเวณโดยรอบประกอบด้วยลายไทยสวยสดงดงามวิจิตร และประติมากรรมปูนปั้นลอยตัว องค์เทวดา ยืนถือพุ่ม หอกและดาบ อยู่รอบเมรุทั้ง 4 ทิศ รวมทั้งเทวดาที่นั่งเชิญฉัตร เรียงรายอยู่ตามราวบันได้ขึ้นเมรุทั้ง 4 ทิศ และยังมีสัตว์หิมพานต์และพญานาคต่างๆประดับรอบตัวเมรุทั้งด้านบนและด้านล่าง ทั้ง 4 ทิศอีกด้วย

"เมรุเผาศพ" สวยสุดในไทย!

นอกจากนี้ ยังมีศาลาธรรมมาศน์ ทั้ง 4 ทิศ มีหลังคาเป็นซุ้มไล่ระดับ 4 ชั้น ที่สวยงาม เพื่อให้พระสงฆ์ได้ขึ้นประกอบพิธีบนเมรุอีกด้วย ทั้งหมดเป็นการออกแบบของหลวงพ่อญา สีลวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสังข์มงคล บ.ขยอง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่ออกแบบลวดลายประยุกต์รูปแบบของเมรุต่างๆโดยไม่ได้ใช้นักออกแบบมืออาชีพมาจากไหน เกิดจากการได้เห็นแบบจากที่ต่างๆแล้วนำมาประยุกต์สร้างขึ้นเอง โดยใช้แรงงานชาวบ้าน และพระสงฆ์และช่างในพื้นที่ ด้วยงบประมาณสร้าง 14 ล้านกว่าบาท และเป็นงบที่ทางญาติโยมพุทธศาสนิกชนที่เคารพศรัทธา ช่วยกันสมทบทุนสร้าง โดยใช้เวลาสร้างตั้งวันที่ 11 ก.พ. 2560 เสร็จวันที่ 10 ก.พ. 2562 รวมระยะเวลาสร้าง 2 ปี และตั้งแต่สร้างเสร็จพบว่ามีประชาชนที่เข้ามาทำบุญจากทั่วสารทิศและต่างจังหวัด เมื่อมาถึงวัด อันดับแรกกจะต้องเดินไปดูความสวยงามวิจิตรอลังการของเมรุเผาศพแห่งเป็นอันดับแรก ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

"เมรุเผาศพ" สวยสุดในไทย!


นายตรี สังข์ลาย ประธานสภา อบต.ตาอ็อง ซึ่งเป็นผู้ช่วยสร้างเมรุและกุฏิวัดสังข์มงคล กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ทั้งกรมศิลปากร คณะศึกษาดูงานต่างๆรวมทั้งประชาชนทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดที่เดินทางมาดูต่างก็บอกว่าเป็นเมรุที่ใหญ่และสวยที่สุดในประเทศ เพราะมีศิลปะลวดลายที่สวยงาม หาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ส่วนงบประมาณก็ได้จากพุทธศาสนิกชนบริจาคช่วยกันทั้งหมด หลวงพ่อเป็นนักพัฒนาตัวจริง ได้จตุปัจจัยมาท่านจะไม่อยู่นิ่ง จะทำตลอด ท่านไม่เก็บไว้ เวลาคนมาทำบุญมาเดินดูจำนวนมาก แต่ถ้าเมรุวัดอื่นเขาจะไม่ค่อยกล้าเดินดูแบบนี้ ส่วนที่มีคนว่าห้ามชมเมรุว่าสวย ถ้าชมจะเสียชีวิต ตามโบราณเขาว่าอย่างนั้น แต่ทุกวันนี้อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรคงที่ มีการเปลี่ยนแปลงตลอดหลวงพ่อญา สีลวัณโณ เจ้าอาวาสวัดสังข์มงคล บ.ขยอง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า เมรุดังกล่าว สร้างเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2560 เสร็จวันที่ 10 ก.พ. 2562 รวมระยะเวลาสร้าง 2 ปีพอดี และทำบุญฉลองวันที่ 29-30 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา ส่วนรูปแบบก็เป็นจินตนาการของตนเอง ไม่มีแบบแปลนอะไร เห็นแบบจากหลายที่หลายวัด ที่ได้ไปเห็นได้ไปดู แล้วก็เอามาดัดแปลงทำเอง พยายามทำไม่ให้คนกลัว เรื่องของเมรุ ส่วนมากจะกลัวเมรุกัน แม้แต่รถจะจอดใกล้เขายังไม่กล้าจอดเลย จะอึมครึมน่ากลัว มองเห็นปล่องควันก็น่ากลัวแล้ว จะทำยังไงไม่ให้คนกลัว คน ได้เข้าไปใกล้ ได้ไปดู ได้ไปชมไปพิจารณา เป็นแนวความคิดอีกแบบที่จะให้คนพิจารณาถึงมรณะสติ เหตุที่ต้องตายและไม่กลัวความตายกัน คนเข้ามาทำบุญก็จะไปดูตลอด เด็กน้อยก็ไม่กลัว ใครมาก็ถ่ายรูปไปดูกัน เป็นเมรุที่ใช้ประจุไฟฟ้าเผาน้ำมัน ส่วนปล่องควันก็มี เราจะซ่อนไว้ 2 ปล่อง มองเผินๆก็จะไม่เห็น

"เมรุเผาศพ" สวยสุดในไทย!


"ส่วนช่างก็จะเป็นชาวบ้านในชุมชนเราเอง ทั้งโยมทั้งพระช่วยกันสร้าง คนละไม้ละมือ ส่วนลวดลายก็ได้ช่างทำลายมาจาก จ.บุรีรัมย์ ใช้งบประมาณ 14 ล้านเศษ ชาวบ้านมาเห็นก็ว่าสวย ๆ กัน ส่วนมากจะมาดูเมรุก่อน จะมากราบหลวงพ่อทีหลัง เป็นกุศโลบายไม่ให้คนกลัว ส่วนการถือเคล็ดของชาวบ้านที่ว่า ถ้าเห็นเมรุสวย อย่าชมว่าสวย เพราะอาจมีอันเป็นไป ก็เป็นเรื่องของชาวบ้านบางคนที่ถือกันเอง จริงๆไม่มีอะไร จะชมว่าสวยไม่สวยก็เหมือนกัน คนกลัวเองก็พูดต่อๆกันมา ว่าอย่าชมเมรุ จริงๆก็ไม่มีอะไร เป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ใจของเรา เขาก็ให้ชมอยู่ว่า เมรุงาม ใช้คำว่างามก็ได้ อย่าถือมาก ถือมากก็หนักมาก"

logoline