svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศาลออกหมายเรียก "ไวพจน์-สำเริง-วรชัย" ฟังคำพิพากษาบุกประชุมอาเซียน

11 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทนาย ระบุ ไวพจน์-สำเริง-วรชัย ศาลจังหวัดพัทยาให้ออกหมายเรียกมาฟังคำพิพากษาฎีกาบุกประชุมอาเซียนร่วมกับกี้ร์ อริสมันต์ อีกครั้ง 31 ต.ค.นี้ เก้าโมงเช้า เหตุยังไม่ได้รับหมายศาล ส่วนกี้ร์-จำเลยร่วมอีก 9 คน ให้ออกหมายจับมาฟังคำพิพากษาวันเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่วันนี้ (11 ก.ย.) ศาลจังหวัดพัทยา ได้อ่านคำพิพากษาฎีกา คดีที่ "13 นปช." ได้ถูกอัยการยื่นฟ้อง ร่วมกันชุมนุมบุกรุกไปยังโรงแรม รอยัลคลิฟ บีช พัทยาเพื่อขัดขวางการประชุมอาเซียนปี 2552 นั้น ซึ่งวันนี้ "นายศักดา นพสิทธิ์" จำเลยที่ 10 เดินทางมาศาลตามหมายเรียกเพียงคนเดียว ส่วนจำเลยอื่น มีทั้งที่ระบุมีอาการป่วย ไม่ได้รับหมายเรียกและที่ได้รับหมายเรียกแล้วไม่มาศาล


ศาลจังหวัดพัทยาจึงได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้เฉพาะ "นายศักดา นพสิทธิ์" จำเลยที่ 10 ฟัง ซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืน ตามศาลอุทรธรณ์ภาค 2 ที่ให้จำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2)(3) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด โดยเมื่อนายศักดา ได้ฟังผลคำพิพากษาฎีกาซึ่งถึงที่สุดตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้ควบคุมตัวไปคุมขังยังเรือนจำเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาดังกล่าวต่อไป


ทั้งนี้ "ทีมทนายความจำเลย" ได้อธิบายขั้นตอนว่า ในวันนี้ "ศาลจังหวัดพัทยา" ได้นัดอ่านคำพิพากษาฎีกาคดีซึ่งมีจำเลยทั้งสิ้น 13 คน แต่วันนี้ในส่วนของ "นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง" และ นพ.วัลลภ ยังตรง จำเลยที่ 1 และที่ 16 ไม่ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาโดยมอบอำนาจให้ทนายความยื่นคำร้องขอให้เลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาวันนี้ออกไปก่อน เนื่องจากจำเลยทั้งสองมีอาการป่วย พร้อมนำใบรับรองแพทย์มาแสดง ซึ่งศาลจังหวัดพัทยาได้พิจารณาคำร้องในส่วนนี้แล้ว เห็นว่าอาการป่วยนั้นไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้ และให้ออกหมายจับจำเลยทั้งสองเพื่อมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาคดีนี้อีกครั้งในวันที่ 31 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. โดยศาลให้ปรับนายประกันของจำเลยทั้งสองด้วย

นอกจากนี้ ก็ยังมีในส่วนของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จำเลยที่ 3 นายสำเริง ประจำเรือ จำเลยที่ 6 นายวรชัย เหมะ จำเลยที่ 13 ก็ปรากฏว่ายังไม่ได้รับหมายเรียกที่ศาลแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ จึงไม่ได้เดินทางมาศาล โดยศาลจังหวัดพัทยาพิจารณาแล้วก็ให้ออกหมายเรียกจำเลยทั้งสามมาฟังคำพิพากษาอีกครั้งในวันที่ 31 ต.ค.นี้ วัน-เวลาเดียวกันกับนายอริสมันต์


ส่วนจำเลยอื่นอีก 7 คน (จำเลยที่ 2,4,5,11,12,15,17)ก็ปรากฏว่า ศาลได้ส่งหมายเรียกแจ้งวันนัดฟังคำพิพากษาฎีกาให้ทราบแล้ว แต่วันนี้จำเลยทั้ง 7 คนไม่มาศาลโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง ศาลจังหวัดพัทยาจึงให้ออกหมายจับจำเลยทั้ง 7 เพื่อมาฟังคำพิพากษาต่อไปเช่นกัน พร้อมให้ปรับนายประกันจำเลยทั้ง 7 คนเต็มจำนวนสัญญษประกันด้วย


โดยคำพิพากษาศาลฎีกาที่อ่านในวันนี้ถือว่าเฉพาะนายศักดา นพสิทธิ์ จำเลยที่ 10 เท่านั้นที่ได้รับฟังผล ส่วนจำเลยอื่นถือว่ายังไม่ได้รับฟังคำพิพากษา ยังไม่ทราบผลคำพิพากษา ซึ่งในส่วนของ พ.ต.ท.ไวพจน์ นายวรชัย นายสำเริง ที่ศาลจังหวัดพัทยาออกหมายเรียกแจ้งให้มาฟังคำพิพากษาฎีกาอีกครั้งในวันที่ 31 ต.ค.นั้น ก็จะต้องมาตามวันที่ศาลนัดต่อไป ส่วนนายอริสมันต์ และจำเลยร่วมที่เหลือ 9 คนซึ่งศาลให้ออกหมายจับนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องติดตามตัวมาส่งศาลในวันนัดที่ 31 ต.ค.เพื่อฟังคำพิพากษาต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคำพิพากษาศาลฎีกาที่อ่านให้จำเลยที่ฟังในวันนี้ ระบุว่า ศาลฎีกาพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องในส่วนของนายสมญศฆ์ พรมภา จำเลยที่ 4 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 


ซึ่งชั้นศาลอุทธรณ์ภาค 2 นั้นพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1,2,3,5,6,10,11,12,13,15,16,17 คนละ 4 ปีโดยไม่รอการลงโทษ ฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 (2)(3) ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ขณะที่ชั้นศาลอุทธรณ์ ก็ให้ปรับจำเลยที่ 1,2,3,5,6,10,11,12,13,15 16,17 คนละ 200 บาท ฐานร่วมกันเดินแถวเป็นกระบวนและกระทำในลักษณะกีดขวางการจราจร ตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาด้วย

logoline