อสังหาฯ วอนปลดล็อคเกณฑ์ LTV 'บ้านแนวราบ'
เอกชนชี้อสังหาฯไทยปี 62 อยู่ในช่วงขาลง วอนแบงก์ชาติปลดล็อกเกณฑ์ LTV บ้านเดี่ยวออกจากมาตรการ ภายหลังจากการเริ่มใช้มาตรการ LTV ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้บริโภคในการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยโดยบัญชีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ มีเพียง 2.4% สะท้อนการเปลี่ยนแปลงและการหดตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน รวมทั้งจากการสำรวจยอดขายของโครงการเปิดใหม่ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแนวราบและแนวสูง มียอดจองติดลบ 15%
พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุ ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีแรก 2562 ยังคงชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมถึงจากการบังคับใช้มาตรการ LTV ใหม่ ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้คอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หดตัวถึง 30% รวมไปถึงบ้านแนวราบ ที่ไม่ใช่ตลาดเก็งกำไรแต่เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งภาคอสังหาฯอยากให้ ธปท.ผ่อนปรนเพิ่มเติม เช่น ปลดล็อกบ้านแนวราบไม่ต้องเข้ามาตรการ LTV เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
ด้านสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการกลุ่มงานด้านเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุ การปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในช่วงที่ผ่านมามีการแข่งขันที่รุนแรงทำให้มาตรฐานการให้สินเชื่อหย่อนลง เกิดเป็นสินเชื่อที่ไม่สัมพันธ์กับรายได้ และกลายเป็นหนี้เสีย และยังพบว่าสัญญาณการกู้ซื้อเพื่อลงทุนสูงขึ้น ธปท. จึงต้องมีการออกการกำกับดูแลให้มีความเหมาะสม
หลังจากมาตรการ LTV เริ่มบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัย 7 เดือนแรกของปี 2562 ยังขยายตัวได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ในไตรมาสที่ 2 จะเริ่มชะลอตัวลง หลังจากที่เร่งไปมากในช่วงก่อนบังคับใช้มาตรการ โดยลดลงในกลุ่มที่ผ่อนที่อยู่อาศัยพร้อมกัน 2 หลังขึ้นไปโดยเฉพาะในแนวสูง สะท้อนว่ามีการเก็งกำไรลดลง
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 2562 คาดว่าตลาดจะอยู่ในช่วงขาลงเพราะผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวจากมาตรการ LTV เร่งปรับกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้าและราคาให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน