svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

จุรินทร์ใช้ผลเจรจารัฐมนตรีอาเซียนช่วยเกษตรกร

10 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"จุรินทร์" กู้เศรษฐกิจฐานรากช่วยเกษตรกรใช้ผลเจรจารัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-อาร์เซ็ปและคู่เจรจาการค้า เพิ่มประโยชน์ให้คนไทยเข้าถึงกรอบข้อตกลงการค้าเสรี และขยายตลาดสินค้าเกษตรเพิ่มเติม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า การประชุมในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 5-10 กันยายน 2562 ตั้งแต่การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาร์เซ็ป และรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับคู่เจรจาการค้า หลังจากวันที 6 กันยายน 2562 พิธีเปิดการประชุมแล้ว ก็มีการดำเนินการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง


ซึ่งการประชุมสำคัญวันนี้นั้น คือการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาโดยเริ่มต้นจากการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับอินเดียเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ช่วงเช้าต่อมาเป็นการประชุมอาเซียนบวก3 กับประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้หรือเอเชียตะวันออก แล้วการประชุมต่อมาจะเป็นอาเซียนกับรัสเซีย อาเซียนกับอินเดียสุดท้าย คือ อาเซียนกับแคนาดา


ทั้งนี้ กรณีอินเดียนั้นมีประเด็นที่เปิดเผยได้ 2-3 เรื่อง คือ ไทยและอินเดียเห็นพ้องกันในเรื่องเอฟทีเอไทยกับอินเดียว่าควรจะมีความคืบหน้าไปทิศทางที่ดี เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันให้เพิ่มเติมขึ้น


ทั้งนี้เนื่องจากว่าตัวเลข 7 เดือนแรกของปีนี้มูลค่าการค้าขยายตัวแค่ 4.6% (ร้อยละ 4.6) ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขยายตัวถึงร้อยละ 20 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็เป็นเหตุผลสำคัญอันหนึ่งสำหรับประเทศไทยเรานั้นส่งออกเครื่องปรับอากาศไปอินเดียจำนวนมาก และมีเคมีภัณฑ์คอมพิวเตอร์รถยนต์ และชิ้นส่วน 


กับที่เรานำเข้ามาก็คือ เครื่องจักรกล เพชรพลอยเวชภัณฑ์ ยา เหล็กและปลาแช่แข็ง วันนี้ทางเราได้แจ้งให้ทราบว่ามีคณะที่จะเดินทางไปอินเดียเพื่อเจรจาเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในช่วงวันที่ 24 - 28 กันยายนนี้ โดยส่วนหนึ่งมีความตั้งใจที่จะไปเจรจาขายสินค้าทางการเกษตรให้กับอินเดียด้วยไม่ว่าจะเป็นยางพารา , ปาล์ม และมันสำปะหลัง


ส่วนเรื่องการประชุมที่เพิ่งเสร็จไป คือ อาเซียนบวก3 มูลค่าทางการค้าระหว่างกันในปี 2561 ที่ผ่านมามีมูลค่าถึง 8 แสนกว่าล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 31 ของมูลค่าการค้าอาเซียน ส่วนมูลค่าในเรื่องการลงทุนนั้นมีมูลค่ารวมกัน 37.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 24.5 ของมูลค่าการลงทุนของอาเซียน


โดยประเด็นหารือที่สำคัญเปิดเผยได้คือทั้งอาเซียน และ 3 ประเทศนี้เห็นพ้องกันว่า ในความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก และภาวะทางการค้าของโลก ดังนั้นจะต้องมีแนวทางการพัฒนาการค้า และการลงทุนที่มีความเหมาะสมต่อไป


ในด้านของทุกประเทศเห็นตรงกันว่าควรผลักดันการประชุมอาร์เซ็ป(การประชุมความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในภูมิภาค 16 ประเทศ)ให้จบให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน 2562 เพราะอาร์เซ็ปจะมีประโยชน์ทั้งด้านสินค้า และบริการการลงทุน และจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการค้าการลงทุนให้กับนักธุรกิจทั้ง16 ประเทศ


นอกจากนี้ ยังทำให้มีกฎระเบียบอย่างเดียวกันแล้วส่งผลต่อเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีให้สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วยและจะต้องมีการเดินหน้าเศรษฐกิจดิจิตอล-อีคอมเมิร์ซ รวมทั้งจะต้องยืนยันหลักการค้าเสรีในการสนับสนุนกฎเกณฑ์ของดับบลิวทีโอ WTO และเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานทั้งวัตถุดิบปัจจัยการผลิตการแปรรูป การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วย


สำหรับ การประชุมเป็นผลสำเร็จร่วมกันของทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศไทย และมั่นใจว่าถ้าการเจรจาประสบผลสำเร็จประเทศไทยก็จะเป็นหนึ่งใน 16 ประเทศที่จะได้รับประโยชน์ เพราะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม และลงลึกไปถึงเอสเอ็มอีและไมโครเอสเอ็มอี และจะช่วยภาคเอกชนสามารถจะส่งออกสินค้าไปในตลาดที่มีผู้บริโภคมากถึง 3,500 ล้านคนในภูมิภาค เป็นครึ่งหนึ่งของประชากรโลกและจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนไทยที่จะไปลงทุนในอีก15 ประเทศด้วย


นอกจากนั้นระหว่างอาเซียนด้วยกันก็ได้รับประโยชน์ซึ่งประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์อย่างยิ่งเป็นผลดีมากและสามารถเพิ่มจีดีพีของประเทศได้ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจทุกระดับ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากเป็นการช่วยเกษตรกรด้วย เพราะช่วยให้ผู้ที่ผลิตพืชผลการเกษตรสามารถมีตลาดส่งออกที่ใหญ่ขึ้นแทนที่จะส่งออกเฉพาะประเทศใกล้เคียง หรือกลุ่มอาเซียนแต่จะเป็นการส่งไปอีก 6 ประเทศด้วยทั้ง จีน , เกาหลีใต้ , ญี่ปุ่น ,  ออสเตรเลีย , นิวซีแลนด์ และอินเดีย

logoline