svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"พรรคร่วม" ผลงานนำห่างหลายขุม!

10 กันยายน 2562
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่ามกลางสถานการณ์น้ำท่วมที่รัฐบาลกำลังสาละวนกับการลงพื้นที่แก้ปัญหา ขณะที่ประเด็นการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนก็ดูจะหน่วงรัฐบาลไม่น้อย โดยเฉพาะกับ พรรคพลังประชารัฐ จนดูไม่มีสมาธิสร้างผลงานสักเท่าไหร่

ต่างจาก "ประชาธิปัตย์" ที่ถือว่าเก๋าเกมการเมือง เดินหน้าโกยแต้มต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงฟอร์มครม. ที่สามารถต่อรองจนได้ครองเก้าอี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ที่สำคัญสามารถผลักดันนโยบายหลักของพรรคอย่าง "ประกันราคาพืชผลทางการเกษตร" ได้สำเร็จตามสัญญาที่หาเสียง
ถึงจังหวะนี้ "ประชาธิปัตย์" ก็ได้เวลาทวงถามสัญญาตามเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล อย่างการ "แก้รัฐธรรมนูญ" เรียกร้องให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเรื่องนี้ * เรียกว่า "ประชาธิปัตย์" เดินหมากแต่ละตา หวังเข้าฮอสทั้งนั้น
ส่วน "ภูมิใจไทย" ที่ชูเรื่อง "กัญชาเสรี" ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างเข้าไปทุกวัน ล่าสุด การให้ประชาชนปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้นนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนรับฟังความเห็น
ขณะที่ "พลังประชารัฐ" แทบจะยังไม่เห็นอะไรที่ใหม่ จะมีก็ต่อยอดจากของเดิมที่รัฐบาลก่อนทำมาเช่น "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "คืนโฉนดที่ดิน" หรือ "แจกเงินให้คนเที่ยว" เป็นต้น ส่วนนโยบายที่ใช้หาเสียงอย่าง "ค่าแรงขั้นต่ำ 400-มารดาประชารัฐ-ลดภาษีบุคคลธรรมดาลงทุกระดับ ร้อยละ10 - ใช้ AI แก้ปัญหารถติดกทม. - นโยบาย 50 เขต 50 สวนสาธารณะ" เหล่านี้แทบจะยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ประเด็นค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อโดนทวงถาม ก็บอกแค่ว่าเป็นเรื่องของไตรภาคีไปพิจารณาตกลงร่วมกัน และหากจะปรับก็ให้เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปในจังหวัดที่มีความพร้อม ผู้ใช้แรงงานเองก็ต้องพัฒนาฝีมือแรงงานควบคู่ไปด้วย แต่ที่สำคัญคือ "กระทรวงแรงงาน" ไม่ได้เป็นโควตาของ "พลังประชารัฐ" มีหรือที่พรรคร่วมจะทำนโยบายคนอื่นให้
หรือนโยบายลดภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ พอมีการทวงสัญญา "อุตตม สาวนายน" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับบอกว่า สิ่งที่พรรคเสนอไม่ได้พูดถึงการลดภาษีโดยตรง แต่พูดว่าถึงเวลาที่น่าจะทบทวนโครงสร้างภาษีของประเทศ เพราะมีความเหลื่อมล้ำ มีอัตราจัดเก็บที่ห่างกันพอสมควร
ทั้งที่ตอนหาเสียงพูดเสียงดังฟังชัด ยืนยัน ว่า "นโยบายของพรรคทำได้แน่นอน ทำได้จริงเพราะศึกษามาแล้วและทำได้ทันที หากเราเป็นรัฐบาล"
เลยไม่รู้ว่ากลายเป็นเรื่องโอละพ่อไปได้อย่างไร หรือตอนหาเสียงต้องเอาเร้าใจเข้าว่า แบบนี้คงมีไม่น้อยที่รู้สึกเสียดาย เผลอๆ คงอดคิดไม่ได้ว่าถ้ารู้อย่างนี้คงปันใจให้คนอื่นดีกว่าหรือไม่

logoline