ทั้งนี้ในฐานความผิด "ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพ ปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน"
อันเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มาตรา 47 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 343 โดยจับกุมได้ภายในซอยพหลโยธิน 11 กรุงเทพฯ
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากที่บริษัท แหลมเกตุ อินฟินิท จำกัด ประกอบกิจการร้านอาหารทะเลบุฟเฟ่ต์หลายชนิด และออกโปรโมชั่นอาหาร ผ่านเฟซบุ๊กและทางเว็บไซด์ของร้านชื่อ www.laemgate.net และ Line:@laemgate จำหน่ายบัตรรับประทานอาหารทะเล ในราคาถูกแตกต่างกันไป
อาทิ "โปรนาทีทองมาแล้วจ้า" ขายเป็นชุดๆ ละ 2,020 บาท มี 20 ที่นั่งๆ ละ 101 บาท , "โปรแฟนพันธุ์แท้" ขายเป็นชุดๆ ละ 3,000 บาท มี 30 ที่นั่งๆ ละ 100 บาท เป็นต้น
โดยบัตรรับประทานอาหารสามารถใช้ได้ภายใน 1 ปี ทำให้มีผู้สนใจสั่งซื้อบัตรดังกล่าวล่วงหน้าจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อลูกค้าเข้าไปใช้บริการ รับประทานอาหารปรากฏว่ารายการอาหารไม่ตรงตามที่โฆษณา และให้จ่ายเงินค่าอาหารเพิ่ม บางรายได้จองนัดหมายกับร้านเพื่อเข้าไปรับประทานอาหารไว้แล้ว แต่ไม่อาจเข้าไปรับประทานอาหารได้
อีกทั้งระยะหลังทางร้านได้นำวัตถุดิบคุณภาพต่ำมาขายให้ลูกค้าจนถูกตำหนิ ทางร้านได้แจ้งขอยกเลิกและงดให้บริการทุกโปรโมชั่น
ทางร้านได้อ้างว่า วัตถุดิบอาหารทะเลมีราคาสูงเกินกว่าคาดการณ์ อีกทั้งมีปริมาณไม่เพียงพอกับลูกค้าในแต่ละวัน ทำให้ทางร้านประกาศปิดตัว เนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว โดยจะคืนเงินให้กับผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่าทางร้านไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ ทำให้รวมตัวร้องทุกข์
ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับ และติดตามจับกุมได้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา และควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมกับฝากขังครั้งแรกที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 ก.ย.
โดยในเบื้องต้นผู้ต้องหา ขอให้การในชั้นศาล ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 2,207,204 บาท เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
สำหรับร้านแหลมเกตุเริ่มแรกให้บริการที่ซอยอารีย์ และย้ายไปที่ตึกอินฟีนิท ตรงห้าแยกลาดพร้าว ใกล้ทหารไทยสาขาใหญ่ ก่อนจะย้ายไปเปิดที่ โชว์ดีซี ย่านถนนพระราม 9 ภายใต้ชื่อ "แหลมเกตุ อวตาร " และปิดตัวลงในที่สุด